รีวิว Mint Julep Peel Off Masque มาร์คชื่อดังอีกตัวที่ต้องลอง!!

Mint Julep Masque นั้น ดังมาหลายปีแล้วในต่างประเทศ ในไทยเองก็เห่อเอามากอยู่เหมือนกันครับ ตอนแรกเป็นตัวที่พอกหน้ามาร์คไว้แล้วล้างออก ว่ากันว่ารักษาสิวได้ชะงัด และหน้าใสสวยหาคนแพ้ได้ยากด้วย
ตอนนี้เค้าทำมาอีกแบบแล้วครับ ไม่รู้ว่ามาใหม่ หรือว่ามีนานแล้วแต่เพิ่งขายในไทยกันแน่ กับ Mint Julep Peel Off Masque ซึ่งเป็นมาร์คแบบเดียวกับเวอร์ชั่นแรก เพียงแต่ตัวนี้เป็นแบบลอกออกครับ ^ ^

และนี่คือโฉมหน้าของ Mint Julep Peel Off Masque มาร์คลอกที่ผมซื้อมาจากเซเว่นครับ ราคาร้อยกว่าบาท (มีกำกับไว้ด้วยว่า For All Skin Types ... สินค้าเค้าแน่จริงๆ ... มั้ง)
พลิกดูด้านหลังจะมีวิธีใช้เป็นภาษาไทย เป็นแผ่นกระดาษที่แปะเพิ่มเข้ามาต่างหาก ของจริงเปล่าๆเป็นภาษาอังกฤษครับ นำเข้ามาแท้ๆเลยครับ ... แต่พอดูผู้ผลิตแล้วก็ ... ก็ในไทยนี่นา -*- หรือว่าจริงๆหลักๆมันเป็นสินค้าส่งออกล่ะเนี่ย
วิธีการใช้ ก็ตามนี้เลยครับ มีบอกไว้หมดครับ เน้นด้วยว่า ลอกสิวเสี้ยนและสิวหัวดำ
พอแกะคำอธิบายภาษาไทยออกไปหมด ก็ได้หลอดสะอาดๆแบบนี้ครับ
บีบครีมพอกหน้าออกมา ... เอิ่ม!! บรรยายไม่ถูกเลยทีเดียว
จะว่าไปก็สีเดียวกับเวอร์ชั่นพอกแล้วล้างล่ะนะ
แต้มดูหน่อย ... เนื้อครีมมันคล้ายๆอันแรกมากเลยครับ แทบไ่ม่ให้ความรู้สึกต่างกันเลย ต่างกันตรงที่พอมาร์คหน้าเสร็จ แบบแรกล้างเนื้อครีม แต่อันนี้ลอก ... ต่างกันแค่นี้จริงๆ
ว่าแล้วก็มาร์คหน้ากันเลยดีกว่า ... สีเขียวต่างกันเพราะ WB ของกล้องที่ตั้งออโต้นะครับ ไม่ต้องงง ^ ^"
และแล้วก็ลอกออกมา ... ด้านบนคือส่วนที่ไม่โดนครีมมาร์คหน้านะครับ ส่วนด้านล่างคือโดนครีมมาร์คหน้ามาร์คไว้แล้วล้างออก ... ตอนลอกเจ็บนิดๆ แต่ไม่มากเท่ายี่ห้ออื่น ... แต่กมันก็เพียงพอที่จะทำให้ผิวส่วนที่ลอก แดงกว่าส่วนที่ไม่ได้ลอกครับ ... (คงมองเห็นความแตกต่างหน่อยๆใช่ม้า)
และ เมื่อใช้แล้ว
ขอบอกว่ามันเย็นวาบบบบบ เลยครับ เย็นจริงๆ ... แต่เย็นแบบเย็นร้อนนะครับ ไม่ใช่เย็นอุณหภูมิติดลบ
แล้วพอมันเริ่มแข็งตัว มันก็ค่อยๆหายเย็นครับ ... แล้วก็ลอกออกได้เลย แล้วไปล้างน้ำครับ

ผลลัพธ์บอกไม่ได้ครับ เพราะเพิ่งใช้ แต่โดยรวมดีครับ ลอกเจ็บไม่มากเท่าหลายๆตัวที่เคยลองครับ ^ ^

รีวิว Pure DKNY - A Drop of Rose น้ำหอมกุหลาบวัยใส

Pure DKNY นั้นมีทำออกมาหลายรุ่นเหมือนกันครับ ผมเคยลองตัว sample size ของรุ่น Verbena มาแล้ว คราวนี้เจอกับ A Drop of Rose ครับ เป็นตัวที่คุณพี่สาวผมชอบ แล้วก็ซื้อมาใช้เองในขนาด 100 ml
ส่วนตัวผมนั้น ก็แค่จิ๊กมาลองก็แค่นั้นเองครับ แล้วก็มาเขียนรีวิวอยู่ตรงนี้ ^ ^
ดังนั้น รีวิวของ Pure DKNY A Drop of Rose ตัวนี้ จะมี 2 ความเห็นจากของผมและคุณพี่สาวครับ

รีวิวโดยคุณพี่สาว
คุณพี่สาวบอกว่า ชอบตัวนี้ตรงที่มันเป็นกลิ่นกุหลายที่ไม่เข้มมากไป เพราะน้ำหอมกุหลาบส่วนใหญ่ จะได้กลิ่นกุหลาบแรงๆแก่ๆ ซึ่งมันให้ความรู้สึกไม่เป้ก
แต่สำหรับ Pure DKNY A Drop of Rose นี้ จัดว่ากลิ่นกุหลาบนุ่มละมุน ไม่เหมือนน้ำหอมกลิ่นกุหลาบทั่วๆไป คุณพี่สาวชอบมากครับ (สังเกตุปริมาณที่เหลือครับ คุณพี่สาวใช้ไปเยอะจริงๆ)

รีวิวโดยผมเอง
ตัวนี้หอมครับ หอมกุหลาบอ่อนๆ อย่างที่คุณพี่สาวบรรยายเอาไว้ แต่สำหรับผม ผมเฉยๆนะ มันธรรมดาไป ไม่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่เลย คล้ายๆพวกน้ำหอมสาย citrus อ่ะครับ จะให้ทำออกมาแนวจริงๆ คงจะยาก พวกสายดอกไม้ก็เช่นกัน ถ้าจะให้แปลก บางทีอาจจะทำให้กลายเป็นประหลาดเอาได้ ถ้าประหลาดถูกจริตคนส่วนใหญ่ (อย่างที่ Angel และ Alien ของ Thierry Mugler ทำเอาไว้) ก็คงดีไป
แต่ถ้าทำแปลกออกมา แล้วหลุดโลก คนเกลียด ขายไม่ออก ก็คงจะไม่ไหว ... ดังนั้น Pure DKNY A Drop of Rose ตัวนี้ ผมว่า Play Safe เกินไป ... คงไม่มีใครบอกว่าเกลียดกลิ่นนี้แน่นอนครับ แต่จะทำให้ชอบสุดๆ ประมาณว่าขึ้นแท่น ก็คงทำไม่ได้เช่นกัน คงจะเป็นรุ่นรองๆหรือกลางๆที่จะอยู่ในใจใครหลายๆคนน่ะครับ

รีวิวขนมจีนหล่มสัก ร้านริมสวนพิษณุโลก

ขนมจีนหล่มสักเนี่ย ดังเหมือนกันนะครับ ... ประมาณว่าไก่ย่างวิเชียรบุรีแต่มีขายเกือบทั่วประเทศ
ผมไปเจอร้านขนมจีนหล่มสักอยู่ร้านนึงครับ ที่พิษณุโลก ไม่ใช่เพชรบูรณ์ เป็นร้านที่น่านั่งพอตัวเลย ชื่อว่าร้านริมสวนครับ อยู่เส้นจากแมคโคร แล้วขับไปทางวัดจุฬามณีน่ะครับ ขับเลยวัดจุฬามณีไปอีกครับ

เมนูของร้านริมสวน ก็ตามนี้เลยครับ หลากหลายและเหมาะสมกับความเป็นร้านขนมจีนครับ
ขนมจีนจานละ 60 บาทนั้นมาครบเลยนะครับ คือขนมจีนถาดนึง พร้อมน้ำยา 3 อย่างเลย คือน้ำยา น้ำยาป่า น้ำพริก (แต่ของผมจะมาแค่ 2 แบบ เพราะคุณภรรยาไม่ชอบน้ำพริกครับ เลยขอมาแค่ 2 อย่าง)
นอกจากขนมจีน ก็มีแกงเขียวหวาน ไก่ทอด ลาบ ต้มยำ ส้มตำ ... ของกินเล่นเช่นปอเปี๊ยะทอด ทอดมัน เฉาก๊วยชากังราวก็มี ... ก็ครบเครื่องดีนะ สำหรับเมนู

บรรยากาศในร้านก็สบายๆครับ เรียบง่าย
อยากบรรยากาศดีหน่อย ก็นั่งทานที่ใต้ร่มไม้ได้ครับ แต่ผมมองว่ามันมีส่วนที่โดนแดดอ่ะ ตอนนั้นอากาศร้อนมาก เลยไม่ไปนั่ง
เมนูแรกมาแล้ว ปีกไก่ทอดตะไคร้ ... อร่อยดีครับ แต่ไม่เชิงอร่อยเหาะนะ แต่ก็ใช้ได้เลยล่ะ
ขนมจีนเค้าปั้นเป็นก้อนๆแบบนี้ไว้อยู่แล้ว ทานได้ประมาณ 2-3 คนครับ แล้วแต่ความสามารถ แต่ผมว่าสองคนเหมาะดี ... เป็นลักษณะของร้านขนมจีนหล่มสักล่ะครับ
น้ำยามา 2 ถ้วย คือน้ำยาน้ำกะทิ กับน้ำยาป่า
อันนี้น้ำยาน้ำกะทิครับ อร่อยใช้ได้
และอันนี้น้ำยาป่าครับ รสชาติดิบๆดี
และซุ้มผักให้ตักฟรีไม่อั้นเคียงขนมจีนครับ
ปิดท้ายด้วยส้มตำ คุณภรรยาสั่งปูปลาร้า!! ... อย่างไรก็ตาม เมนูส้มตำผิดหวังนิดนึง มันไม่แซ่บอีหลีถูกใจคุณภรรยาเท่าไหร่ครับ แต่นอกนั้นก็โอเคหมด (แต่ก็อาจจะแล้วแต่ปากคนก็ได้นะ ลางเนื้อชอบลางยา)
ปิดท้ายด้วยภาพเครื่องดื่มของทางร้านครับ ชา กาแฟ ชาเขียว และบลาๆ มีให้พร้อมครับ ^ ^
สรุปโดยรวมแล้ว โอเคดีครับ แต่ผมว่าร้านที่หล่มสักจริงๆอร่อยกว่านี้นะ แต่ที่นี่ก็โอแหละครับ อร่อยเหมือนกัน
ใครหิวขนมจีนหล่มสัก แต่ไม่อยากขับรถไปไกล (ถ้าคุณอยู่ใกล้พิดโลกมากกว่าอ่ะนะ 555+) ก็ลองแวะมาทานที่ร้านริมสวนกันได้ครับ หายคิดถึงขนมจีนหล่มสักได้เหมือนกันครับ ^ ^

Sia ทำแนว!! หันหลังร้องเพลง Chandelier ใน Ellen Show

ผมรู้จัก Sia ครั้งแรกจากเพลงของ David Guetta ครับ นั่นก็คือเพลง Titanium ที่ทำเอา Repeat ฟังหลายรอบมากๆ เพลงถัดมาอย่าง She Wolf ก็ไม่ต่างกัน เป็นสองเพลงของ David Guetta ที่ฟังซ้ำไปซ้ำมาบ่อยๆ ... แต่แล้ว เมื่อเสิร์ชเพลงอื่นๆของ David Guetta ฟัง รวมทั้งเพลงดังๆแทบทุกเพลงของ David Guetta ... ผมกลับเฉยๆแฮะ!! ... ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าชอบเพลงของ David Guetta ... อาจจะบอกได้ว่า ผมชอบเสียงร้องของ Sia มากกว่า ก็อาจจะถูกก็ได้!!

มาครั้งนี้ Sia ได้ออกซิงเกิ้ลใหม่ ที่ชื่อว่า Chandelier ... ผมก็ได้เขียนลงบล็อคไปแล้ว กับ MV เพลงนี้
แต่อยู่ๆ ก็เจอคลิป Sia โชว์การแสดงการร้องสดๆใน Ellen Show (เอเลนโชว์นี่ก็ไม่รู้อะไร นักร้องที่ผมชอบ เจ๊แกจับไปออกรายการหมด แนวการฟังเพลงน่าจะตรงกับผม เพราะได้ยินว่าเจ๊แกเป็นแฟนเพลงของ Jason Mraz ด้วย)
พอดูคลิปเสร็จ ก็อดเอาเจ๊ Sia มาเขียนบรรยายลงบล็อคอีกไม่ได้ ... ชมคลิปกันก่อนเลยครับ Sia Performs Chandelier live on The Ellen Show!! หันหลังร้องเพลง แล้วเอายัยเด็กเปรตที่เต้นใน MV มาเต้นโชว์ทั้งเพลง!!
สุดยอด!! ทั้งยัยเด็กเปรตและเซีย!! ... เริ่มจะเป็นแฟนเพลงของเซียเหนียวแน่นซะแล้ว ถ้า Full Album ออก จะซื้อแน่นอน ^ ^

ปล. จากคลิปนี้ ทำให้รู้ข้อมูลเพิ่มอีก 2 อย่าง
1. Sia เป็นนักแต่งเพลง!! แต่งเพลงที่ขึ้นอันดับหนึ่งให้กับ Madonna, Rihanna, Beyonce มาแล้ว!!
2. เด็กเปรตชื่อ Maddy ... พอลองเสิร์ชดู ก็พบว่าชื่อในวงการเต็มๆว่า Maddie Ziegler อายุ 11 ปี เป็นมืออาชีพพอตัว ผลงานผ่านมาแล้วหลายเวทีดังๆ
3. เสียง Sia ตอนพูดขอบคุณ (Thank you) ท้ายคลิป น้ำเสียงเหมือนเด็กมีปัญหา + โรคจิต จนทำเอาแอบคิดว่าถ้าหันหน้าจะร้องเพลงไม่ออกเลยทีเดียว ... +1 คะแนนจากความโรคจิต (ผมถูกโฉลกกับพวกศิลปินหรือนักร้องที่พิลึกๆครับ)

รีวิว สบู่ลาโนลินเอ็กไวท์ Lanolin Agg Tval ดีแค่ไหน?

สบู่ลาโนลินเอ็กไวท์ หรือ Lanolin Agg Tval นั้น เป็นสบู่ที่เห็นวางขายในเซเว่นมานานแล้ว เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าที่อยู่คู่เซเว่นมาช้านาน ... มันต้องมีอะไรดี!!
แบบว่า หนังหน้าก็ดีอยู่แล้วอ่ะนะ ก็เลยไม่เคยคิดจะซื้อใช้ ... แต่แล้วตอนนี้ อยู่ๆก็สิวเยอะซะงั้น -*- ... จำได้ว่าเซเว่นมีสบู่ชาโคลรักษาสิว เลยกะจะลองซื้อมาใช้ แต่แว่บไปเห็น Lanolin Agg Tval เข้า ... คุ้นๆว่าขายนานแล้ว ก็ยังวางขายอยู่ ... อาจจะดีก็ได้มั้ง ก็เลยซื้อมา
กล่องสีน้ำเงินๆแบบนี้แหละครับ ก้อนเล็กๆ คิดว่าคงคุ้นตากันดี
มีตัวหนังสือ Lanolin Agg Tval แล้วก็แปลเป็นอังกฤษให้ว่า Eggwhite Facial Care ... มาจากสวีเดน (Sweden) ด้วยนะเนี่ย!!

ดูหลังกล่อง มันสบู่นำเข้าเลยนะครับ ผลิตที่สวีเดนจริงๆ ... แต่มีตัวหนังสือเกาหลีด้วย น่าจะผลิตที่สวีเดน เกาหลีเอามาขายทำบรรจุภัณฑ์ แล้วไทยก็เอามาจากเกาหลีอีกที ... มั้ง
วิธีใช้ ที่พิเศษออกมานอกจากฟอกสบู่เฉยๆก็คือ ใช้ฟองครีมพอกหน้าไว้ 1-3 นาทีด้วยล่ะครับ!!

แกะเอาตัวสบู่ออกมา เป็นสีขาวบริสุทธิ์เยี่ยงนี้ ^ ^
ให้ดูกันชัดๆครับ ว่าหน้าตาสบู่เป็นอย่างไร ^ ^
พอลองใช้ครั้งแรก รู้สึกเลยว่า "น่าจะดีจริง" ... ไม่มีกลิ่นสารเคมีเลย!! ดูอ่อนละมุนมากๆ ไม่หอมด้วยนะครับ แต่เหมือนแทบไม่มีกลิ่นอะไรเลย มีกลิ่นจางๆที่รู้สึกเหมือนมาจากธรรมชาติมากกว่า
พอฟอกหน้า ล้างออก ... ผ่านมาวันนึง ก็เหมือนสิวยังไม่ขึ้นใหม่นะครับ (แต่ของเดิมก็ยังไม่หายหรอก) ก็คิดว่าน่าจะโอเคเลยแหละ

ลองเสิร์ชดู คำว่า ลาโนลิน ก็พบว่าเป็นไขมันชั้นเลิศเหมาะกับผิวหน้าซะด้วยครับ พบในขนแกะ ที่เค้าว่ากันว่าคนนิวซีแลนด์ที่สัมผัสขนแกะประจำ ก็จะมือเนียนนุ่มกว่าคนประเทสอื่นๆ ก็ต้องลองดูครับ ^ ^ (ลองไปนิวซีแลนด์ดู เหอๆๆ)

รีวิว CC Cream ของ Cathy Doll ครับ ^ ^

สำหรับ BB Cream (บีบีครีม) นั้น หลายๆคนคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ต่อให้ไม่รู้จัก ก็คงได้ยินบ่อยจนรู้จักไปเองกันแล้วแหละ
แต่ตอนนี้ ก็มีเทรนด์มาอีกกระแสครับ กับ CC Cream (ซีซีครีม) ที่เค้าบอกว่า ตัวนี้ดีกว่า BB อีกนะ ไม่หนักหน้า
...
ก็ลองมาดูกันเลยดีกว่า ว่าดีจริงหรือเปล่า? โดยตัวที่มารีวิวนี้ เป็น CC Cream ของยี่ห้อ Cathy Doll น่ะครับ
ซองนี้ ซื้อมารีวิวเล่นโดยเฉพาะเลยล่ะครับ มาจาก 7-11 ซองละ 20 บาทน่ะครับ
มีคำโปรยโฆษณาซีซีครีมตัวนี้ไว้ว่า BB Cream ทั่วไปหนักหน้าใช่ไหม? ผิวเบาใส ต้อง CC ครีม ... ปาดปุ๊บ ปิดปั๊บ เนียนปิ๊ง ... ขนาดนั้นกันเลย ...
นอกจากนั้นเค้ายังมาพร้อม SPF50+ และ PA+++ ด้วยนะ (แต่ดูแล้ว คงไม่ต้องใส่อะไรมากันแดดหรอก มันกันแดดไปในตัวคล้ายๆกางร่มแหละผมว่า -*-)

เทเนื้อครีมออกมา ... เนื้อครีมสีประมาณนี้ครับ คล้ายๆรองพื้น
ลองเกลี่ยให้ทั่วแขนดู ... เอิ่ม ... รู้สึกเราจะเทมาเยอะเกินไป -*-
ก็เลยตัดสินใจไปล้างน้ำออกซะหน่อย
...
ปรากฎว่า มันกันน้ำ!! ... มันกันน้ำได้ดีมากๆ ... ดูสภาพเม็ดหยดน้ำที่เกาะที่ผิวสิครับ -*-
ก็เลยต้องไปหาอะไรมาเช็ดออกบางส่วนแทน
พอเช็ดออก ให้เหลือปริมาณโอเค ก็เริ่มเกลี่ยๆๆ ให้มันเนียนเท่ากัน เหลือแขนดำไว้ส่วนนึงเท่านั้น
ผลลัพธ์ก็ออกมาอย่างที่เห็น ... อาจจะต้องเกลี่ยอีกนิดให้เนียนกว่านี้
ฟีลลิ่งหลังใช้ ... เทียบกับ BB Cream ... ไม่รู้แฮะ 555+ เทียบไม่ออกอ่ะ แบบว่าผมเองก็ไม่ได้ใช้ BB Cream เป็นประจำ ก็ไม่รู้อ่ะนะ
แต่สำหรับ CC Cream ก็ต้องบอกว่า มันก็ไม่ได้เบาสบายอะไร เพียงแต่ถ้าเทียบกับ BB Cream มันก็คงจะเบากว่าแหละ แต่ถ้าเทียบกับหน้าทาแป้งตรางู แป้งตรางูก็คงจะเบากว่าอ่ะนะ
แต่ข้อดีคือ ทาแล้วเหมือนมีเกราะกำบังให้ผิว ... น้ำยังผ่านไม่ได้!! เหมือนมีเกราะบางๆ เคลือบผิวอยู่เลย ... ปกป้องมลภาวะได้ดี!! อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าเหมาะกับคนทำงานห้องแอร์นะ CC Cream เนี่ย ถ้าต้องแบบว่าเหงื่อออกขณะใช้ CC Cream เหงื่อคงออกมาไม่ได้กันพอดี (ซึ่งสาวๆน่าจะคิดว่าโอเค) แต่ผมว่าทำให้ผิวเสียมากกว่า ในกรณีแบบนั้น

ก็จบรีวิวเท่านี้จ้า งูๆปลาๆ ที่พิมพ์มาด้านบน ฟีลลิ่งล้วนๆ ใช้วิจารณญานนะจ้ะ

Google สร้างรถไม่ต้องมีคนขับ วิ่งบนถนนได้เอง สำเร็จแล้ว!!

ช่วงนี้ Google ชอบคิดโปรเจคล้ำๆออกมาอยู่เสมอ ซึ่งเริ่มจะไต่ระดับไปในทุกๆวงการ ไม่เฉพาะ Search Engine หรืออยู่ในอินเตอร์เนทเพียงอย่างเดียวแล้ว
Google ก้าวไกล ในด้านภาพถ่ายดาวเทียมลงสู่โลก กลายเป็นเจ้าพ่อแผนที่ ที่นับวันก็ยิ่งละเอียดขึ้นเรื่อยๆ ลงไปเดินดูสภาพพื้นที่จริงได้
Google ทำ Google Glass ที่ทำอะไรได้หลายๆอย่าง เป็นสินค้าไอทีล้ำสมัย เหมือนสเกาเตอร์ในดราก้อนบอล
... และตอนนี้ Google ทำรถวิ่งเองได้ ไม่ต้องมีคนขับ ... ออกมาสำเร็จจนได้!! ในชื่อโปรเจคว่า Google Self Driving Car

รถยนต์ที่ไม่ต้องมีคนขับของกูเกิลนี้ บอกไว้ก่อน ว่าไม่ใช่ว่าวิ่งได้เองในสนามง่ายๆ แต่ใช้งานได้จริงในระดับถนนจริงๆที่มีการจราจรคับคั่งด้วยซ้ำ!!
ลองดูคลิปนี้ก่อนเลยครับ
จุดหลักที่ทำให้รถวิ่งเองได้บนถนนจริงๆเลยก็คือ ไอ้เจ้าเซนเซอร์หมุนๆที่อยู่ด้านบนตัวรถนั่นแหละครับ ตัวนั้นเป็นเซนเซอร์ที่ตรวจจับสิ่งแวดล้อมทุกอย่างรอบตัวรถเป็นระยะไกล ร่วมกับ GPS ที่ทำให้รู้เส้นทาง
โดยโปรแกรมจะตรวจได้ว่ามีอะไรอย่างไร แม้แต่กรวยสีส้มเล็กๆ ก็ตรวจจับได้ครับ แล้วมันจะคำนวนแบบว่าเบารถ เว้นระยะให้มีความปลอดภัยด้วย แม้แต่คนเดินถนนก็ปลอดภัยครับ เพราะมันตรวจจับหมดทุกอย่างเลย!!

และสุดท้าย Google ก็สร้างรถที่สามารถใช้ได้จริงๆออกมา และนี่คือคลิปที่เป็น First Drive จริงๆ ที่ไม่ใช่การทดลองผ่านการต่อโปรแกรมแบบคลิปด้านบน แต่รวมไปในตัวรถทั้งหมดแล้ว
เห็นแล้วก็ทึ่งเนอะ จากเมื่อสิบกว่าปีก่อน เป็นเวบเสิร์ช ... ผ่านมาแค่ 10 กว่าปี ก็เป็นบริษัทที่รวยติด 1 ใน 10 ของโลก ... และวันนี้มีสินค้าล้ำยุคมากมายก่ายกอง รวมถึงรถวิ่งเองได้ กลายเป็นบริษัทผลิตรถไปแล้ว!!
อย่างไรก็ตาม กว่าจะผ่านจนวางขายได้ ไม่รู้ว่าต้องทดลองกี่ปีเหมือนกัน อันนี้ต้องรอดูกฎหมายในสหรัฐ ... อาจจะต้องมีการแก้กฎหมายกันใหม่หลายอย่างล่ะครับ กว่าที่เจ้ารถคันนี้จะออกโลดแล่นให้จับจ่ายซื้อขายกันได้จริง
แต่ก็นะ ... เห็นแค่นี้แล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะอย่างน้อยก็รู้อย่างนึงละ ว่ารถวิ่งเองได้ เราทันใช้ในช่วงชีวิตเราแน่นอน!! (รออีกอย่างว่าจะได้ไปดาว Kepler หรือเปล่า แต่สงสัยจะไม่ทัน เหอๆๆ ... ต้องฝากความหวังไว้กับกูเกิ้ลแทนนาซ่าป่าวเนี่ย)

รีวิวรถทัวร์ "นครชัยแอร์" บริการระดับเครื่องบินจริงหรือไม่?

นครชัยแอร์ ... เห็นชื่อแล้วถ้าไม่นึกถึงสายการบิน ก็ต้องนึกถึงร้านติดแอร์ ... ใครจะรู้กันเล่า ว่านี่คือบริษัทรถทัวร์ ^ ^
แต่สาเหตุที่เค้าตั้งชื่อว่า "แอร์" นั้น ... จุดมุ่งหมายหลักของบริการคือ ความเทียบเคียงกับบริการบนเครื่องบิน ตามที่สายการบิน Air ต่างๆเค้าทำกันนั่นแหละครับ
ครั้งนี้ผมมีโอกาสได้ใช้บริการนครชัยแอร์เป็นครั้งแรก เดินทางไปเชียงใหม่น่ะครับ เลยถ่ายภาพบางส่วนพร้อมรีวิวมาบอกต่อกัน
สาขาที่ผมได้ใช้บริการ คือสาขาบขส.ใหม่พิษณุโลกครับ เดินทางไปเชียงใหม่ ไม่ได้จองล่วงหน้านะครับ ก็มาจองที่เคาเตอร์เลย ... ถ้าเป็นที่เชียงใหม่ จะดีกว่านี้ เพราะจะมีหน้าจอการคลิกการเลือกการจองที่นั่ง หันมาหาเราให้ลูกค้าเห็นได้ด้วย แต่ที่นี่ยังเหมือนเพิ่งเปิดใหม่ครับ (ก็เปิดใหม่จริงๆนั่นแหละ ตอนผมไป) ... แต่แม้จะเปิดใหม่ ก็ให้บริการเข้ารูปเข้ารอยได้ดีครับ
มีห้องรับรอง ห้องอาหารให้ด้วย เจ๋งป่ะล่ะ?  ถ้านั่งรถระยะไกลๆ จะมีจุดอย่างนี้ให้ครับ อย่างในภายคือจุดพักแวะหลังจากนั่งรถจากเชียงใหม่มาถึงพิษณุโลกครับ (ก็ 5 ชั่วโมงเลยอ่ะนะ ก็ต้องหิวแน่ๆ)
รายละเอียดและเงื่อนไขการเดินทางของนครชัยแอร์ ก็มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรดีครับ
... และ ... ดูชุดแอร์โฮสเตสเค้าสิครับ ... พนักงานบริการบนรถครับ แต่ดูแล้ว นี่มันแอร์โฮสเตสดีๆนี่เอง!! (ถ้าไปลากกระเป๋าอยู่แถวสุวรรณภูมิละ ใช่เลย!!)
บรรยากาศภายในรถครับ ช่องแอร์อยู่ด้านบนของช่องใส่ของอีกอ่ะครับ มันปล่อยทะแยงๆมา เวลาเปิดไฟก็เป็นไฟซ่อน ไม่เคืองตามากนัก เปิดปิดไปเป็นเวลา ไม่เปิดเพลงหนวกหูเสียงดังเกินไป แต่ก็มีเปิดทีวีบ้าง แต่ใช้เสียงไม่หนวกหูครับ
พนักงานบริการหรือแอร์โฮสเตสเค้าจะเดินมาอธิบายเป็นระยะๆเวลาถึงจุดพักต่างๆด้วย แล้วก็มีการแจกขนมและน้ำประมาณ 2 อย่างบนรถครับ ส่วนอาหารหนักๆ ก็จะให้แวะทานครับ
พอถึงจุดที่เราจะลง เค้าก็จะมีผ้าเย็นให้ด้วยครับ ^ ^
ส่วนเรื่องที่นั่งต่างๆ ก็ชัดเจนครับว่าใครนั่งไหนอย่างไร ไม่มีการจอดแวะส่งระหว่างทางครับ

รวมๆแล้ว ก็ไม่ถึงกับบริการดีเว่อร์อะไรหรอกครับ แต่ก็จัดว่าใช้ได้เลยครับ บริการเกินรถทัวร์ที่เคยๆขึ้นมา หรือว่ารถทัวร์เดี๋ยวนี้เค้าเป็นแบบนี้หมดแล้วก็ไม่รู้นะ ผมไม่ค่อยได้ขึ้นน่ะครับ
สำหรับนครชัยแอร์ ก็แนะนำเลยครับ ^ ^

รีวิว Angsana Velavaru Resort, Maldives สวยหรูมากๆครับรีสอร์ทมัลดีฟส์แห่งนี้!!

Maldives นั้น นอกจากธรรมชาติทางทะเลที่แต่งแต้มมาแปลกไม่เหมือนใครแล้ว สิ่งปลูกสร้างอย่างเช่นตัวโรงแรมรีสอร์ทนั้น ก็มีลักษณะไม่ค่อยเหมือนที่อื่นด้วย เช่น มีบ้านพักกลางน้ำที่เรียกกันว่า Water Villa หรือ Over Water Bungalow ... แต่ในกลุ่มบ้านพักแบบ Water Villa ด้วยกันนั้น ก็มีบางแห่งที่หรูหราฟู่ฟ่า ฉีกความหรูออกมาอีกระดับบ้างเหมือนกัน ... อย่างที่ Angsana Velavaru Resort ที่มัลดีฟส์แห่งนี้ครับ
...
ภาพแรก ชมกันก่อนเลยครับ กับบ้านพักที่มีเจ็ทตี้และสระว่ายน้ำยื่นออกมา ทำให้ Water Villa ที่นี่โดดเด่นเหนือใคร!! (ราคาแรงกว่าบังกะโลกลางน้ำปกตินะครับ แต่ผมว่าไม่เยอะมาก ราคาแพงกว่า Sripanwa ไม่มากอ่ะครับ)
มันอลังการงานสร้างจริงๆครับ พระเจ้าจอร์จ ... อยากไปค้างที่นี่สัก 3 คืน (คืนเดียวไม่พอ ยังละกิเลสที่ได้พักไม่ทัน)
เมื่อไหร่เราจะรวยหนอ จะได้ไปพักแบบนี้บ้าง (จริงๆตอนนี้แพลนไปมัลดีฟส์ไว้ก็จริง แต่ก็คงเป็น Water Villa แบบธรรมดาสุดอ่ะ -*-)
น้ำใสๆสวยๆ แบบมัลดีฟส์ และที่พักแบบว่า โอยยย... ทะเลขี้เหร่ๆ น้ำขุ่นๆ เจอที่พักแบบนี้ก็ยังน่าพักเลยครับ แล้วทะเลสวยขนาดนี้ ที่พักเลิศแบบนี้ ... จะอดใจยังไงไหว (ปัญหาเรื่องเงินอย่างเดียว เหอๆๆ)
ตัดมาดูที่ที่พักกันดีกว่า เค้าเป็นบ้านสองชั้นครับ ชั้นบนสำหรับดูวิวอาบแดดได้เลย ส่วนชั้นล่างสำหรับพักอาศัย
และ ... อยู่กับทะเล ลงน้ำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ก็มีสระว่ายน้ำมาให้ด้วยล่ะ
และนอกจากสระว่ายน้ำแล้ว ยังมีเจ็ทตี้ส่วนตัวยาวๆ ทอดตัวเข้าไปในทะเล (เรียกเจ็ทตี้ก็จริง แต่จอดเรือไม่ได้นะครับ)  ซึ่งจะเป็นจุดโรแมนติก และเป็นจุดลงน้ำจากบ้านพักครับ มีฝักบัวล้างตัวหลังจากขึ้นจากทะเลด้วยนะครับ
แล้วดูสระว่ายน้ำเค้านะครับ มันไม่ใช่สระเล็กๆเลย เป็นสระที่ใหญ่มากๆ สำหรับห้องประเภท Pool Villa ... มันใหญ่พอจะเป็นสระว่ายน้ำของทั้งโรงแรมรีสอร์ทบางแห่งเลยด้วยซ้ำ ... แต่สำหรับที่ Angsana Velavaru Resort มันเป็นของคุณคนเดียวต่อหลัง!!
ถ้าได้ไปมัลดีฟส์ แบบให้สุดๆ ก็อยากพักที่นี่อ่ะนะ
สวยไม่ปราณีรีสอร์ทใดๆ
สระว่ายน้ำสวยๆนั่น ขอบบางส่วน เป็น infinity edge ด้วยนะครับ ไม่ธรรมดาทุกรายละเอียด
กลับเข้ามาในร่มนิด มีตาข่ายโปร่งเป็น day bed ให้ด้วย คล้ายๆแทมโพลีนครับ
ไปดูห้องพักภายในกันบ้าง สวยดี แต่ไม่เว่อร์มากเท่าไหร่
... จะว่าไม่เว่อร์มากเท่าไหร่ ... มันก็ใช่ที่นะ มันก็สวยมากๆอยู่นะ (แต่ดูจากภายนอก คิดว่าภายในจะอลังการนี้)
อ๊ะ มีอ่างอาบน้ำตรงนี้ด้วยอ่ะ ... ไม่ใช่คู่รักกัน ห้ามไปพักครับ ... (แต่เพื่อนกันก็คงไม่อุตริอยากไปพักรีสอร์ทหน้าตาแบบนี้หรอกเนอะ)
ก็เป็นการตัดรีวิวเอามาให้ชมกันบางส่วนครับ
ดูรีวิวของ Angsana Velavaru Resort เต็มๆได้จากคลิปของคุณ Alan Chua และ Niranjan Sundaram ได้ครับ
หรือจะดูจากในยูทูปก็ได้ครับ มีคลิปของ Angsana Velavaru เยอะมากๆ เรียกน้ำย่อยแห่งกิเลสได้ดีมากๆครับ

ใครมองหาโรงแรมรีสอร์ทที่มัลดีฟส์ที่มี Water Villa หรูๆ โพสต์รูปอวดลง FB หรือ Twitter แล้วเพื่อนจะอิจฉาไปอีก 7 ชั่วโคตร ... ก็ไปพักที่ Angsana Velavaru ได้เลยครับ ^ ^