Olympus E-PL7 ยุคนี้มันต้องถ่ายเซลฟี่ Selfie วินเทจและแชร์!!

Olympus E-PL7 กล้องภาคต่อของซีรี่ส์ E-PL จากโอลิมปัสรุ่นนี้ ก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างดังมากๆ สำหรับรุ่นพี่ E-PL5 ที่มีไฟล์ภาพที่ดีเทียบเท่า OMD EM5 แต่ได้จอ LCD ที่พลิกไปมาได้และมีคุณภาพหลายๆอย่างที่เรียกได้ว่าเหลือๆ ... เรียกว่าขายดีกันเลยทีเดียว!!

มาครั้งนี้ กับกล้อง Olympus E-PL7 ที่สเปคหลายๆอย่างดีกว่า E-PL5 นั้น ... โอลิมปัสกลับไม่คิดจะโปรโมทด้วยสเปคของกล้อง แต่กลับนำ Selfie มาโปรโมทแทน!! จนตากล้องหลายๆคนกังขาว่า ไม่มีมุขอย่างอื่นหรือไร?
ส่วนตัวก็มองดังนี้ครับ ... กล้อง Mirrorless ของโอลิมปัสนั้น ติดตลาดแล้ว ตากล้องส่วนใหญ่ก็นิยมชมชอบกันเยอะ เรื่อง AF จำนวนเลนส์ หลายๆอย่างอยู่ในระดับที่คนทั่วไปรู้กันดี
ดังนั้น ถ้า Olympus จะลองโปรโมทกล้องด้วยลูกเล่นที่ทำมาเอาใจมือสมัครเล่นที่อยากได้กล้องถ่ายสนุก ถ่ายดี และได้ Selfie สวยๆทั้งที ก็ไม่มีอะไรน่าเกลียดครับ และดูท่าแล้ว โอลิมปัสก็ปั้นรุ่น E-PL7 เพื่อทำตลาดตรงนี้จริงๆจังๆ ไว้เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ซีเรียสกับการถ่ายภาพมาก แต่อยากแค่ถ่ายสนุกและได้ภาพสวยแบบมืออาชีพ ผมว่ากล้อง Olympus E-PL7 ก็ตอบโจทย์ได้จริงๆนะ ดังนั้นจะเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโฆษณา ก็ย่อมได้เป็นธรรมดา ^ ^

ลองมาดูโฆษณากันครับ (แต่โดนโจมตีเยอะนะ ไม่ได้โจมตีเรื่องกล้อง แต่โจมตีว่ายัยนี่จะบ้าเซลฟี่อะไรขนาดนั้น)
1. SELFIE
จุดเด่นของโฆษณาตัวนี้คือ
1. Touch Screen ถ่ายรูปได้สะดวก เมื่อถ่าย Selfie
2. กล้อง Olympus E-PL7 ออกแบบได้เท่ แอบติด Vintage ซะด้วยครับ (ไม่รู้ว่ารู้สึกเหมือนผมไหม?)

และอีกโฆษณาตัวนึง ที่ผมเห็นแล้วทำเอารู้สึกอยากได้ขึ้นมาทันที นั่นก็คือในส่วนของ Art Filter ครับ ... กล้องรุ่น E-PL7 มี Art Filter ที่ทำให้ภาพออกแนว Vintage Style ด้วยครับ (กำลังฮิต แต่น่าแปลกที่หลายๆยี่ห้อยังไม่เอาเอฟเฟคนี้มาลง นับว่าโอลิมปัสทำการบ้านด้านการตลาดมาดีครับ)
2. VINTAGE STYLE ART FILTER
จุดเด่นที่เห็นได้จากโฆษณาตัวนี้ก็คือ
1. Vintage Style นั้น มีให้เลือกถึง 3 แบบ!! (สะใจคนชอบภาพวินเทจครับ)
2. Partial Color ดูจะสะดวกมากๆครับ เป็นวงล้อเลือกสีเลย แถมโชว์ผลลัพธ์จากหน้าจอ
3. Art Filter เก่าๆที่เป็นกระแสมาก่อน ก็มากันครบครับ

และสุดท้าย การควบคุมกล้องด้วย Smartphone เป็น wireless ชัตเตอร์ได้เลยครับ ถ่ายได้ทั้งวิดีโอ และดูภาพที่หน้าจอ smartphone ได้ด้วย เจ๋งป่าวล่ะ!!
3. Wifi OI Share
ค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว คือกล้องที่ Wifi ได้มีเยอะนะ แต่ส่วนใหญ่ยังแค่แบบแชร์ภาพ หรือลั่นชัตเตอร์ได้ปกติๆครับ
แต่อันนี้คือเห็นภาพจากหน้าจอ Smartphone เลย และควบคุมจาก Smartphone ได้แบบเกือบจะเต็มร้อยสำหรับการถ่ายภาพเลยด้วย แล้วก็ส่งแชร์ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Smartphone เจ๋งมากๆครับ

ก็นับว่าเป็นการตลาดแนวใหม่ของโอลิมปัส ที่ไม่ได้เน้นสเปคเทพๆของกล้อง แต่เน้นความสนุกสนานของการใช้กล้องที่ดูแล้วก็ทำได้ดีมากๆทีเดียวครับ ^ ^

ใส่เสียงเพลงให้เวบไซต์ "อย่าใส่เลย" จริงๆ!!

การใส่เสียงเพลงให้เวบไซต์ หรือมีการเพลย์วิดีโออัตโนมัติให้กับเวบไซต์นั้น ตอนนี้ก็ยังมีเวบบางแห่งทำอยู่ ... ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของผู้จัดทำเวบล่ะครับ ว่าชอบแบบไหน ต้องการอะไร
แต่สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีการใส่เสียงเพลงให้เวบไซต์อยู่ล่ะก็ แนะนำว่า "อย่าใส่" เลยครับ ^ ^"

เกริ่นกันก่อนว่า เราๆเนี่ย ทำเวบไซต์หรือบล็อคกันขึ้นมา ก็เพื่อให้มีคนเข้ามาดูใช่ไหมล่ะครับ?
ดังนั้น ข้อควรระมัดระวังอย่างหนึ่งก็คือการรบกวนคนที่เข้ามาดูเวบไซต์หรือบล็อค ที่ทำให้เค้าต้องรีบปิดหรือไม่อยากดูเวบไซต์ของเรา และเสียงเพลงก็เป็นหนึ่งในนั้น
แน่นอน ว่าคนที่คิดจะเอาเสียงเพลงหรือดนตรีไปใส่ให้เวบ ต้องคิดมาอย่างดีแน่ละ ว่าเพลงนั้นมันต้องเพราะสุดๆ!! แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรอยู่ดี ... เพราะ ...

1. คนเราชอบเพลงนานาจิตตัง ดังนั้นเพลงที่เราจับยัดลงเวบ ใช่ว่าคนอื่นจะชอบเหมือนเรา อาจจะยี้ก็ได้

2. หลายๆคน เวลาใช้คอมพิวเตอร์ ท่องเน็ทตามปกติแล้ว ก็มักจะเปิดเพลงคลอไปด้วยอยู่แล้ว ... หากเปิดเจอเวบไซต์มีเสียงเพลง ก็จะรบกวนเพลงที่เปิดอยู่แล้วทันที

3. บางคนอาจจะคิดว่า ใส่ player ให้เปิดปิดไว้แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหา ... แต่ส่วนใหญ่ขี้เกียจหาครับ ว่าไปแปะตัว player ไว้ในโซนไหนของเวบ ปิดหน้าเวบไซต์ไปเลยดีกว่า

ก็มี 3 ข้อแค่นี้ล่ะครับ ... แน่นอนว่าคนที่กำลังอารมณ์มึนๆ ดันโชคดี เปิดมาเจอเสียงเพลงแล้วอินกับมัน ก็คงมีบ้าง แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นคนส่วนใหญ่น่ะนะ ^ ^"
ก็ลองพิจารณาดูครับ ว่าจะเปิดเสียงเพลงให้กับเวบไซต์ดีหรือเปล่า

แม่ลูกเวอร์ซาเช่ รับคำท้า Ice Bucket

ไม่รู้ว่าใครท้าแม่ลูกคู่นี้ครับ กับแม่ลูกเวอร์ซาเช่ อย่าง Donatella Versace (คุณแม่) และ Allegra Versace (คุณลูก)
แต่ก็ต้องเรียกว่าสมกับเป็นแม่ลูกเวอร์ซาเช่ล่ะครับ กระแสอะไรมีให้เกาะ ไม่เคยพลาด มาครั้งนี้ก็มาทำ ALS Ice Bucket Challenge กับเค้า ... และ ข้อดีของแม่ลูกคู่นี้คือ นอกจากท้าต่อแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะบอกให้ช่วยกันบริจาคนะครับ (ซึ่งเป็นจุดหมายหลักของการทำ ALS Ice Bucket Challenge ไม่ใช่แค่ทำเล่นๆเกาะกระแสจ้า)

ก็ลองดูกันครับ ว่าคนรวยแวดวงไฮโซ เวลาเค้าทำ Ice Bucket เค้าทำกันยังไง?

เริ่มด้วยตัวแม่ครับ Donatella
คุณแม่ Versace เรื่มด้วยการมีหนุ่มๆหุ่นนายแบบยืนขนาบข้างสองคน พร้อมใช้ภาชนะอย่างหรูราคาแพง เทน้ำครับ ... เรียกว่าเป็นเจ้าแม่แบรนด์ดังทั้งที จะมาใช้ขันหรือถังน้ำพลาสติกเทไม่ได้นะเธอ เทเองก็ไม่ได้ ต้องมีนายแบบหุ่นล่ำๆ ให้สมกับเป็นเจ้าป้ากันหน่อย

ตามมาด้วยคุณลูก Allergra
คุณลูกไม่ฟุ่มเฟือยนายแบบครับ ให้คุณแม่เทให้เองเลย ... แน่นอน ว่าเหยือกน้ำก็ต้องหรูครับ

ทั้งสองคนแม่ลูก เหมือนๆกันอย่างคือโดนน้ำนิดเดียวก็กรี๊ดวิ่งหนีทันที -*-

สำหรับคนที่สองคน Nominate ก็คือ
1. Allergra Versace = Quentin Tarantino, Azzedine Alaïa, Uma Thurman (เห็นชัดเลยว่าคุณลูกเป็นแฟนหนังเควนติน เพราะนอกจากจะนอมิเนทเควนตินแล้ว ยังพ่วงอูม่าเธอแมนมาด้วย)
2. Donatella Versace = Pharrell Williams, Prince, Pedro Almodovar ... คุณเธอชอบ Prince ด้วยหรือเนี่ย? แต่ก็แนวสมกันดี

Milano Hua Hin มิลาโน่หัวหิน โรงแรมใหม่ไฉไลมากๆ ^ ^

มีโรงแรมรีสอร์ทเปิดใหม่ที่หัวหินมาบอกต่อกันครับ เป็นโรงแรมที่ชื่อว่า Milano Hua Hin (มิลาโน่ หัวหิน)
ซึ่งเท่าที่เห็นจากภาพ ต้องบอกว่าสวยน่าพักมากๆ ตกแต่งแนววินเทจนิดๆ โมเดิร์นหน่อยๆ มีห้องแบบ Pool Access ด้วย จากระเบียงห้องเดินลงสระว่ายน้ำได้เลยครับ และก็มีการจัดและตกแต่งมุมบางส่วนของสวนและที่พักให้เหมาะแก่การถ่ายรูปเล่นเพลินๆด้วย ^ ^
ขอเปิดด้วยภาพนี้ครับ จากระเบียงห้องพัก ลงสระว่ายน้ำได้เลย แล้วก็บรรยากาศของสระว่ายน้ำเอยอะไรเอย สวยและดูดีมากๆครับ
ตรงส่วนนี้ ถ้าเดินเข้าประตู Milano Hua Hin เข้ามา ก็จะเจอวิวรวมๆแบบนี้ครับ หญ้าสวย ตกแต่งเรียบร้อย ไม่มีเนื้อดินให้เห็นครับ ใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างดี
โดยจากภาพด้านบนนี้ จะเห็นลักษณะของห้องพักได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือทางซ้าย คืออาคาร ชั้นล่างมีห้องแบบ Pool Access ส่วนชั้นบนๆก็จะมีห้องพักอีก (ซึ่งน่าจะถูกกว่าห้องด้านล่าง) แล้วทางขวาก็จะเป็นวิลล่าหลังๆ ซึ่งวิลล่าเหล่านี้ ก็เป็นกึ่งๆ Pool Access เพราะออกมาจากบ้านพักก็เดินลงสระว่ายน้ำได้เลย

มองดูสระว่ายน้ำจากมุมบน จะมีการไล่ระดับด้วย เตียงอาบแดดที่อยู่บนผืนน้ำ เป็นเทรนด์นิยมที่สวยมาแรงตอนนี้ครับ
และภาพด้านล่างภาพนี้ครับ มุมสวยๆ ป้ายสไตล์หัวหิน และมุมน่ารักๆสำหรับถ่ายรูปครับ ^ ^ วิวด้านหลังที่เป็นสระว่ายน้ำก็สวยนะ
จากในห้องพักครับ ถ้าเป็นห้องด้านล่างก็อย่างที่บอก Pool Access จ้า
เป็นรีสอร์ทน้องใหม่ที่น่าพักมากๆแห่งหนึ่งครับ
อีกวิวโดยรวม รูปนี้ทำให้เห็นว่าสระว่ายน้ำเค้ากว้างพอดู อาจจะไม่กว้างเท่าภาพถ่ายจากเลนส์ไวด์ แต่ก็จัดว่าทอดตัวยาวและกว้าง ว่ายสนุกสะใจแน่นอน ^ ^
และกลับมาด้านหน้าของวิลล่าอีกนิด ^ ^
เป็นไงครับ รีสอร์ทแห่งใหม่ มิลาโน่หัวหิน สวยใช่ไหมล่ะ ^ ^

สนใจก็ตามไปดูรายละเอียดที่พักได้ที่เวบไซต์ http://www.milanohuahin.com กันได้ครับ มีภาพอื่นๆเพิ่มเติมอีกเยอะครับ เป็นเวบไซต์ official ของ Milano เค้าล่ะครับ ^ ^

ก็ ... เพิ่งเปิดใหม่ซิงๆด้วยนะครับ ตอนนี้รับรองสภาพใหม่กิ๊งๆครับ ^ ^

เปรียบเทียบสีจากกล้องยี่ห้อต่างๆ Canon, Nikon, Olympus, Sony, Fuji, Panasonic, Pentax, Samsung

กล้องรุ่นใหม่ๆนั้น เรื่องความเร็วในการโฟกัส คุณภาพของไฟล์ภาพ และอะไรต่อมิอะไรอาจจะต่างกันอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ต่างจนถึงขั้น "สะเทือน" ความรู้สึกผู้ใช้มากนัก
เช่น กล้องยี่ห้อหนึ่ง อาจจะโฟกัสเร็วกว่ายี่ห้อหนึ่ง แต่ความเร็วก็ต่างกันระดับจุดทศนิยมวินาที ผู้ใช้แทบจะไม่รู้สึกอยู่แล้ว
...
ดังนั้น นักเล่นกล้องบางกลุ่ม ก็เลยใช้ "สีสัน" ของภาพจากกล้อง มาเป็นตัวชี้วัดที่จะเลือกกล้องที่ถูกใจตัวเองมากที่สุด

สำหรับใครก็ตาม ที่กำลังมองหาความแตกต่างระหว่างสีของภาพจากกล้องยี่ห้อต่างๆนั้น ผมก็เลยขอรวบรวมภาพตัวอย่างจากกล้องยี่ห้อดังๆมาเทียบกันตามนี้ครับ
1. Canon แคนนอน ยี่ห้อนี้เค้าว่ากันว่าสีนวลธรรมชาติ บ้างก็ว่าจืดชืดไปหน่อย เหมาะแก่การถ่ายภาพคน (portrait) และธรรมชาติสมจริง
2. Nikon นิคอน เค้าว่ากันว่านิคอนสีสด คอนทราสต์จัดจ้าน เหมาะแก่การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือ Landscape
3. Olympus โอลิมปัส เค้าว่ากันว่าสีเข้มๆทึบๆแน่นๆ แต่อมแดงไปนิด เหมาะแก่การถ่ายวิว Landscape
4. Sony โซนี่ เจ้าพ่อเซนเซอร์ที่กล้องหลายๆยี่ห้อ หยิบยืมเซนเซอร์เค้าไปใช้
5. Fuji ฟูจิ บริษัทกล้องที่ตอนนี้ผลิตทั้งยารักษาโรคและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เค้าว่ากันว่าสีของฟูจินุ่มละมุนละไม ทั้งจัด สีสดและเป็นธรรมชาติในคราวเดียวกัน
6. Panasonic พานาโซนิค กล้องยี่ห้อนี้สเปคมาเต็มคุ้มค่าค่าตัวและราคา เริ่มจะบูมในด้านสมรรถนะของตัวกล้อง แต่สีสันเป็นอย่างไร ต้องรอดูรอชม
7. Pentax เพนแทกซ์ กล้องยี่ห้อดังที่ไม่เสื่อมมนขลังค์ สีสันสดจัดจ้าน แต่กลับมีสกินโทน (Skin Tone) ที่สวยและนุ่มนวลอย่างเหลือเชื่อ
8. Samsung ซัมซุง เค้าอาจจะดังเรื่องมือถือ Galaxy แต่ด้านกล้อง ก็ทำได้ดีหลายๆรุ่น สีสันก็สวยงามครับ ลองดูว่าสำหรับกล้องระดับสูงๆเซนเซอร์ใหญ่ๆ ซัมซุงจะทำสีออกมาเป็นอย่างไร

โดยรุ่นกล้องนั้น ผมเลือกรุ่นกลางๆครับ ไม่ใช่ Full frame ตัวท้อป แต่ก็เป็น DSLR หรือ Mirrorless รุ่นกลางๆครับ
เริ่มด้วยสีเขียว ที่น่าจะบ่งชี้ถึงภาพแนว Landscape หรือวิวทิวทัศน์ครับ
เริ่มจากสีเขียว ... จะเห็นว่าสีแบ่งเป็น 3 กลุ่มครับ
1. Nikon, Panasonic, Fuji, Pentax จะเขียวสดๆ อมเหลืองนิดๆครับ
2. Olympus อยู่ตรงกลางค่อนไปทางเหลือง, Canon อยู่กลาง ค่อนไปทาง Sony และ Samsung
3. Sony กับ Samsung สีจะเป็นเขียวจริงๆ ไม่ค่อยติดเหลือง
โทนนี้ ส่วนตัวชอบ Olympus กับ Canon ครับ

ต่อมา สำหรับคนผิวคล้ำ สีจะออกมาอย่างไร? ลองดูครับ
พอเป็นผิวสีคล้ำ สีจะต่างจากกลุ่มต้นไม้เขียวไปเลย (ลึกล้ำดีไหม?)
แบ่งเป็น 3 กลุ่ม เช่นกันครับ
1. กลุ่มอมแดง Nikon กับ Olympus
2. กลุ่มสีกลางๆคือ Fuji กับ Samsung แต่ซัมซุงจะซีดๆ ส่วนฟูจิจะสดๆ
3. กลุ่มอมเหลือง คือ Pentax กับ Canon จะเป็นอมเหลืองสดๆ ... ส่วน Sony กับ Panasonic จะอมเหลืองซีดๆ
โทนนี้ ส่วนตัวชอบ Pentax, Fuji ครับ

แล้วถ้าสีผิวแบบอาหมวยสาวตี๋จีนๆแบบเอเซียผิวขาวล่ะ จะเป็นอย่างไร?
อันนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มเช่นกันครับ แต่ในแต่ละกลุ่มจะมีสีเฉพาะของตนเองที่แตกต่างกัน ต้องแยกดูตามความชอบครับ
1. กลุ่มอมแดง Nikon, Fuji, Olympus, Samsung
2. กลุ่มกลางๆ เหลืองๆแดงๆ Pentax กับ Canon
3. กลุ่มเหลืองๆ ได้แก่ Sony กับ Panasonic ครับ
กลุ่มนี้โดยส่วนตัวชอบ Pentax, Olympus แล้วก็ Canon ครับ

ก็จบแค่ 3 โทนนี้แล้วกันครับ ถ้าอยากดูต่อ ไปดูในเวบไซต์ DPReview.com กันเอานะครับ ภาพมาจากเวบไซต์นี้ทุกภาพครับ ผมเอามารวมกันให้ดูง่ายขึ้นเท่านั้น
เพราะบางคนอาจจะอยากดูสีแดง สีสันรุ้งๆสดใสหลายๆสีเปรียบเทียบกันไปเลย ... แต่เท่าที่ดู ส่วนใหญ่ถ้าเป็นพวกสีแดง สีฟ้า สีน้ำเงิน ไม่ค่อยต่างกันมากน่ะครับ ก็เลยหยิบมาให้ดูเฉพาะโทนเขียว ผิวเข้มและผิวขาวเอเซียครับ

ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกกล้องกันนะครับ โดยเฉพาะสาวๆ ที่อยากได้กล้องที่ถ่ายตัวเองสวย ก็ลองดูครับ ว่าสีผิวตัวเองเป็นอย่างไร และเหมาะกับกล้องรุ่นไหน ^ ^

Nokia XL รีวิวแบบบ้านๆ พร้อม Sample Photo ครับ ^ ^

Nokia XL เป็นมือถือออกใหม่ล่าสุดในซีรี่ส์ X ของทางโนเกีย ซึ่งมีจุดเด่นกว่า Nokia X กับ Nokia X2 ตรงขนาดที่ใหญ่กว่าครับ!!
ก่อนซื้อนั้น ผมก็ได้หาข้อมูลในเน็ทมาพอควร หลายๆคนเทียบสเปคกับหลายๆรุ่นหลายๆยี่ห้อ ... ซึ่ง Nokia XL นั้น ได้รับคำวิจารณ์ที่ดี แต่ไม่ได้ดีที่สุด ส่วนใหญ่คนจะเชียร์รุ่นอื่นกันมากกว่าครับ
แล้วก็ยังมีข่าวว่า Microsoft จะลอยแพ Nokia X platform อีกต่างหาก!!
... แต่ผมก็ไม่สนครับ!! ... สาเหตุก็ไม่ใช่อะไรมาก ... เพราะผมไปจับไปใช้ไปลองที่ร้านแล้ว พบว่า Nokia XL ถูกใจที่สุด!! ทั้งขนาด การใช้งานและการถ่ายภาพ ในราคา 5,350 บาท ที่ผมมองแล้ว รู้สึกว่ามันตอบโจทย์ของผมได้ดีที่สุดสำหรับราคาประมาณนี้ครับ บางตัวที่ราคาเกือบหมื่น ก็ยังตอบโจทย์ได้ไม่เท่า ผมก็เลยได้ Nokia XL ติดมือมา ^ ^
โจทย์ในการซื้อโทรศัพท์ของผม ก็ตามนี้ครับ
1. ใช้ Video Call ผ่าน Line ครับ ... เนื่องจากคุณภรรยาเรียนอยู่ที่อังกฤษ ผมอยู่ไทย จึงต้องการ Video Call ที่ใหญ่สะใจ ... หน้าจอของ Nokia XL ใหญ่ได้ใจที่สุดในราคาระดับของมัน
2. มีกล้องหน้าที่โอเค เพราะว่าเน้น Video Call ซึ่ง Nokia ก็ให้มา 2.0 ล้านพิกเซลสำหรับกล้องหน้า
3. ถ่ายรูปไม่ต้องดีที่สุดในกลุ่ม Smartphone เพราะผมมีกล้อง Mirrorless อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ต้องการโทรศัพท์ที่ถ่ายรูปได้ห่วยเกินไปนัก
...
ส่วนที่เหลือก็คือมันเป็น Nokia X Platform ในคราบของ Android ซึ่งคุ้นชินกับผมเป็นอย่างดี
...
แต่พอได้ลองที่ร้าน Telewiz ก็พบว่า มันสนองมือของผมได้ดีกว่าโทรศัพท์ราคาหมื่นกว่าๆ หรือตลอดจนเรือธงของหลายๆค่าย!! ทั้งๆที่ Ram ก็แค่ 700 กว่าๆ ... ชิพประมวลผลก็ไม่ได้ดีเด่ไปอย่างไร
แต่พอใช้งานจริง กลับตอบโจทย์!! คือขนาดของมันทำให้เวลาพิมพ์แชทแล้ว มันหนึบหนับติดมือดี เหมือนพิมพ์ถนัด ... เรื่องถ่ายรูปยิ่งชอบ ภาพอาจจะไม่ได้ดีมาก แต่ Nokia XL วัดแสงเฉพาะจุดได้ ชดเชยแสงได้ และมี White Balance ที่ค่อนข้างแม่น!! ... ก็เลยไม่คิดมาก ตกลงปลงใจกับ Nokia XL ทันที ในราคา 5,350 บาท
Launcher ของ Nokia X มันทำมาคล้ายๆกับ Window Phone แต่ภายในคือ Android เลยไม่ลำบากในการใช้เท่าไหร่ พูดง่ายๆก็คือ เหมือนเติมสีพื้นหลังให้ไอคอน ก็แค่นั้น
เกมเอยอะไรเอย ก็ครบๆนะ มี Here Map ที่เค้าว่าดีนักดีหนาด้วย แต่ผมยังไม่ได้ลองใช้
เปิดเพลงที่เซฟไว้มาดูหน่อยสิ
พบว่าเสียงดีใช้ได้ครับ จากลำโพงของตัวโทรศัพท์เลยนะ ... นอกจากนั้น แม้จะมีใครบอกว่าจอ 5 นิ้วของ Nokia XL จะไม่ละเอียดมากก็ตาม แต่เท่าที่ผมเล่นไฟล์วิดีโอขนาดมากกว่า 720 ขึ้นไป ก็คมแล้วนะครับ
และสุดท้ายก็คือ มันตอบโจทย์ Video Call ผ่านไลน์ได้ดีมากๆ!! สะใจจริงๆอย่างที่หวังไว้ครับ
...
ในตอนแรก ผมใช้ Line ได้ แต่ดันทำวิดีโอคอลล์ไม่ได้ซะงั้น แอบตกใจว่านี่หรือคือความใช้ยากของโนเกียที่เค้าล่ำลือกัน ... แอบใจไม่ดีนิดๆที่ไม่เชื่อคนอื่น แต่เชื่อความรู้สึกตัวเอง 555+
แต่เพียงแค่อัพเดทเวอร์ชั่นของ Line ในเครือเท่านั้นแหละ ทุกๆอย่างก็โอเคดีหมดเลย ^ ^ แล้วก็เล่น Video Call ได้สมใจครับ ^ ^

จากนั้นขอพาชมในส่วนของกล้องกันบ้าง มีตัวอย่างภาพ (Sample Pictures taken by Nokia XL) มาให้ดูกันด้วย

เริ่มจากภาพกลางแสงจ้า สภาพแสงดีๆ แน่นอนว่ามือถือส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีปัญหา
ต่อมาผมขอโชว์เรื่องการวัดแสงเฉพาะจุด ตรงนี้ถูกใจมากๆครับ
เริ่มจากวัดแสงที่ม่านมู่ลี่และหน้าต่าง จะเห็นว่าในห้องมืดมาก แต่ภาพจากภายนอกจะคมชัดมากๆ
ต่อมาวัดแสงรวมๆคือบริเวณส่วนของม่านมู่ลี่กับส่วนของผนังห้อง ทับๆกัน
ผลคือ ในห้องสว่างขึ้น ส่วนภายนอกโอเว่อร์ไปหน่อย แต่ก็เห็นรายละเอียด เป็นภาพที่พึงพอใจในสภาพแสงที่เล่นยากครับ
จากนั้นลองวัดแสงที่หมอนของโซฟา ก็พบว่าส่วนอื่นๆขาวโพลนไปหมด ...
ให้ดูเพื่อบอกว่า กล้องตัวนี้วัดแสงได้นะจ้ะ ^ ^
จากนั้นลองโคลสอัพดูครับ
ขยับใกล้อีกหน่อย ... ผลลัพธ์ไม่เลวนะครับ ถ่ายจ่อๆใกล้ๆได้ดีครับ
ลองกับต้นเฟื่องฟ้าดูบ้าง
และก็ลองถ่ายภาพตอนกลางคืน
เริ่มด้วยแสงจากไฟนีออนครับ
และแสงน้อยๆ อย่างแสงไฟริมถนน
สรุปคือกล้องใช้งานดี ถูกใจครับ (บางคนก็ว่า Nokia X2 ดีกว่า ซึ่งก็จริง แต่ผมก็เลือก XL เพราะขนาดและกล้องหน้าที่ดีกว่านี่แหละครับ ... เพราะผมเน้น Video Call จริงๆ และขอเพียงกล้องใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็ตอบโจทย์ครับ)

ตอนนี้กำลังใช้ Nokia XL อย่างเห่อและมีความสุขมากๆครับ
บางทีโทรศัพท์ที่ดี ก็อาจจะไม่ได้ดีสำหรับทุกคนครับ แต่เราต้องตอบโจทย์ตัวเองให้ได้ว่าต้องการอะไรครับ ^ ^
คือแรม 1 GB หรือ 700 กว่าๆของ Nokia XL มันก็ไม่ได้ทำให้เราแยกแยะได้หรอกครับ ว่าตัวไหนเร็วกว่าลื่นกว่า ผมลองแล้วไม่รู้สึกต่างครับ บางที Benchmark ต่างๆน่ะ ก็ต้องดูด้วยว่าเอาเข้าจริงมันต่างกันในระดับที่เรารับรู้ได้หรือไม่ ... เมื่อแยกไม่ออก ก็เลยได้ Nokia XL มาใช้ประการ ฉะนี้ครับ ^ ^

เมื่อปลาฉลาม โดนปลาหมอทะเลกิน!!

หากพูดถึงนักล่าแห่งท้องทะเล ใครๆก็ต้องคิดถึงปลาฉลาม
แต่คลิปที่จะเห็นนี้ เป็นคลิปที่ปลาฉลามกลายเป็นฝ่ายถูกกิน!! แถมโดนงับทีเดียวอยู่!!
พูดอย่างนี้แล้ว หลายๆคนอาจจะคิดว่า ปลาที่กินปลาฉลามเนี่ย คือปลาอะไรหนอ? รู้ง่ายๆว่าต้องตัวใหญ่ ... ปลาวาฬเพชรฆาตหรือไม่?
...
ขอตอบว่า ในคลิปที่คุณจะเห็นนี้ คุณจะได้เห็นปลาฉลามโดนปลาหมอทะเล กิน!!
ในคลิปนั้น ปลาฉลามมาติดเบ็ดครับ เลยกลายเป็นว่า ปลาฉลามกลายเป็นเหยื่อกลายๆ รอให้ปลาอื่นมากินนั่นเอง!! (อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้มาล่าฉลามอย่างในคลิปนะครับ โดนด่าเยอะเลยล่ะ ส่วนตัวมองว่าจงใจมาตกฉลามครับ ไม่เหมือนกับว่ามาตกปลาอื่นแต่ปลาฉลามติดเบ็ดแต่อย่างใด)
... แล้วเจ้าปลาหมอทะเล (Grouper) ก็คว้ามากินปลาฉลามเอาดื้อๆเลยครับ แบบว่า "ง่ำ" เพียงคำเดียว!!

ใครอยากเห็นปลาหมอทะเลตัวเต็มๆ ลองไปดูตามพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดูได้ครับ ตัวใหญ่สมกับที่กินฉลามได้จริงๆนั่นแหละครับ!!

Samsung Galaxy S5 ทำ ALS Ice Bucket Challenge!!

Samsung S5 - ซัมซุง S5 ทำเจ๋ง ตามกระแส ทำไอซ์บัคเก็ท (ALS Ice Bucket Challenge) โชว์!!
ซึ่งถือว่าการตลาดฉลาดดีครับ เข้าใจคิด 555+

เอาเป็นว่าลองชมกันก่อนครับ ... และขอบอกว่าท้ายคลิป เค้า "ท้า" ต่อด้วยนะครับ ท้าใครอย่างไร ดูคลิปเลยครับ ^ ^
เจ๋งอย่างแรงครับ ... คลิปนี้โชว์อะไรหลายๆอย่าง
1. โทรศัพท์ไม่เสียนะจ้ะ (แต่หลังถ่ายทำประมาณไม่กี่วินาที อาจจะเจ๊งก็ได้นะ 555+)
2. เสียงสังเคราะห์ก็ทำได้ดี (แม้ไม่มาก)
3. มีการท้ากลับด้วย!! ... และท้าอะไร? ก็ตามนี้ครับ Iphone 5s, HTC One M8 และ Nokia Lumia 930 ... ตามนี้ครับ เป็นการบ่งบอกได้อย่างดี ว่าซัมซุง S5 มองรุ่นใดเป็นคู่แข่งกับตน ^ ^

ก็ขำๆครับ แต่ผมมองว่าซัมซุงฉลาดนะ ที่เริ่มก่อน ไม่รู้ว่าไอโฟน, HTC แล้วก็ Nokia จะบ้าจี้ตามไหม ^ ^"

โยเกิร์ตเมจิบัลแกเรีย + สตรอเบอร์รี่ไซรัป อร่อยเกินคาด!!

โยเกิร์ตเมจิบัลแกเรียที่เจมส์จิเป็นพรีเซนเตอร์ เคยฮอตฮิตจนขาดตลาดในช่วงแรกๆ ดังมากๆครับ ตอนนี้ก็สามารถหาซื้อได้เป็นปกติแล้วครับ หมดช่วงเห่อแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เท่าที่เห็นก็จัดว่าเป็นโยเกิร์ตขายดีอยู่นะครับ แม้จะไม่ขาดตลาด แต่ก็เห็นเหลือน้อยใน shelf ของเซเว่นทุกทีไป

ตอนนี้โยเกิร์ตเมจิบัลแกเรีย เค้าก็ได้แนะนำการทานรสออริจินัลให้อร่อยได้ง่ายๆขึ้นด้วยครับ ด้วยการทานกับน้ำเชื่อมนั่นเอง ปริมาณน้อยๆ ไม่ทำให้อ้วน เจือๆลงไป ได้รสชาติดีครับ
ดังนั้น บางทีคุณจะเห็นว่า เค้าแถมน้ำสตรอเบอร์รี่ไซรัปมาให้ด้วยแบบนี้ (ลองไปหาทานดูได้ บางอันก็ไม่มีนะครับ)
ดูข้างกล่องหน่อยสิ ว่าเป็น "Meiji Bulgaria" แน่หรือไม่ ^ ^
ดึงเอาไซรัปออกมา ... อ๊ะ มีชิงโชคไปเที่ยวกับเจมส์จิด้วย แล้วก็มีลุ้นกล้องฟรุ้งฟริ้งของ Casio (ว่าแต่กล้องฟรุ้งฟริ้งนี่มันอะไรยังไงเนี่ย)
ว่าแล้วก็เทน้ำสตรอเบอร์รี่ไซรัปลงไป
แล้วก็ตักกิน แบบให้ติดน้ำไซรัปมาโดยพอประมาณเยี่ยงนี้
กินแล้วก็ ... อร่อย!! อร่อยดีครับ รสออริจินัลเนี่ย พอปรุงแต่งนิดหน่อย เจือหวานนิดๆ อร่อยขึ้นอีกเยอะเลย ผมว่ากินอร่อยกว่ารสกลมกล่อมอีกนะครับ

ดังนั้น ถ้าใครจะประยุกต์กินคู่กับไซรัปรสอื่นๆ ผมก็ว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะ ^ ^ (แต่ถ้ากินกับรสชอคโกแลต ผมว่าไม่เข้านะ 555+)

รีวิว Richmond Hotel โรงแรมขาประจำจัดประชุมกระทรวงสาธารณสุข ^ ^

Richmond Hotel - โรงแรมริชมอนด์ เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ถนนรัตนาธิเบศร์ ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล นอกจากนั้น เยื้องๆโรงแรมก็ยังมีบิ๊กซี เดินไปหาอาหารการกินก็สะดวกครับ แล้วเร็วๆนี้ อีกไม่นาน ที่นี่ก็จะมีรถไฟฟ้าตัดผ่านแล้วล่ะครับ เป็นรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงครับ
โดยปกติ คนทั่วประเทศที่ทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุขมักจะได้ไปใช้บริการโรงแรมริชมอนด์บ่อยๆครับ เพราะว่าที่นี่อยู่ใกล้กระทรวง แล้วห้องประชุมเอย ที่พักเอย ก็ค่อนข้างโอเค ใครทำงานสายนี้ ก็จะได้แวะไปเยี่ยมโรงแรมริชมอนด์กันบ่อยๆ ^ ^

ว่าแล้วก็ขอพาชมห้องพักเลยละกันครับ ^ ^
ห้องที่พักเป็น type ถูกสุดครับ เตียง double bed ครับ ... สภาพห้องโดยรวมจัดว่าสะอาดสะอ้าน แล้วก็ไม่เก่าครับ ทุกๆอย่างยังดูใหม่สดซิงอยู่เลยครับ เตียงนุ่มพอประมาณ ไม่ถึงกับนุ่มเว่อร์นะ แต่ก็จัดว่าใช้ได้ นอนสบายดี
ห้องที่พักเป็นชั้น 14 วิวสูงใช้ได้ครับ ข้อเสียคือสัญญาณ 3G ในโทรศัพท์จะช้ามากๆ สาเหตุก็เป็นเพราะอยู่ชั้นที่สูงเกิน ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าเกี่ยว แต่พอลงลิฟท์ไปชั้น Lobby ก็จะพบว่าสัญญาณไวขึ้นทันตาเห็นเลย ... ดังนั้น ถ้ามีห้องชั้นต่ำๆ ก็รีเควสท์ห้องชั้นต่ำๆก็ได้ครับ ถ้าติดใช้เน็ทน่ะนะ ... แต่ถ้าชอบวิวสวยๆ ก็ชั้นสูงๆครับ ^ ^
โต๊ะทำงานครับ
แอบย้อนไปที่ทางเข้า มีมินิบาร์อยู่ตรงนี้และตู้เสื้อผ้า
และทีวีจอแบนกลางห้อง ... กระจกมีทั้งส่องเต็มตัว และกระจกที่หน้าโต๊ะทำงาน (ซึ่งบูรณาการไปเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ไม่ยาก)
การใช้ไฟในห้อง ก็มี master ไว้ควบคุมดวงไฟ พร้อมกับเป็นนาฬิกาปลุกและสามารถปรับแอร์ได้ที่นี่เช่กนัน
กาแฟมีให้สองซอง น้ำสองขวด กาต้มน้ำ
เปิดตู้ออกดู มีไม้แขวนเสื้อให้พร้อมครับ
ไปดูห้องน้ำกันบ้างครับ ห้องน้ำสะอาดสวยงามดี มีไดร์เป่าผม มีสายชำระ

ฝักบัวค่อนข้างปรับความร้อนได้ง่าย ไม่มีปัญหาน้ำร้อนจนเกินไปหรือเย็นจนเกินไป
amenities เป็นอะไรที่สับสนเล็กน้อย เพราะไม่มีบอกว่าอะไรคือบอดี้โลชั่น อะไรคือครีมอาบน้ำ อะไรคือแชมพู ... ก็คาดว่าเดา สองขวดที่เหมือนกันคือครีมอาบน้ำ

ปิดท้ายด้วยตู้เซฟ ก็มีให้ครับ อยู่ในตู้ชั้นวางทีวีครับ
โดยรวมก็โอเคครับ เช็คอินเช็คเอาท์รวดเร็วมากๆครับ แต่ผมไปติดต่อตอนไม่มีแขกท่านอื่นเลยนะครับ
เห็นที่นี่มีทัวร์จีนมาลงเหมือนกัน ถ้าชนกันก็อาจจะช้าได้ตามปกติครับ

อาหารการกิน อย่างที่เกริ่นมาข้างต้นว่าใกล้บิ๊กซี ก็อยากจะเสริมอีกหน่อย ว่า food court ที่บิ๊กซีใกล้ๆโรงแรมนั้น รสชาติค่อนข้างโอเคเมื่อเทียบกับอาหารฟู้ดคอร์ทหลายๆที่ครับ ดังนั้นฝากท้องที่นั่นได้ ผมได้ชิมร้านที่เป็นข้าวผัดแปลกๆอ่ะครับ จำชื่อร้านไม่ได้ อร่อยดี แล้วก็ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่ไข่ ก็ทำดีครับ

ก็เป็นอีกทางเลือกของคนที่ไปทำธุระย่านนนทบุรีครับ ^ ^

Taylor Swift - Shake It Off ยอดวิว 5 ล้าน ใน 20 ชม.

Taylor Swift คลอดเพลงใหม่ออกมาแล้วครับ ชื่อเพลงว่า Shake It Off
ยอดวิวแล่นเร็วมากๆครับ ยังไม่ทันพ้นวันเลย ยอดวิวปาไป 5 ล้านกว่าๆแล้ว (ปัจจุบันคือปล่อยคลิปมาได้ 20 ชม.)

ใครเป็นแฟนของสาวเทเลอร์สวิฟท์ ก็ฟังกันได้เลยครับ ^ ^
เพลงของสาวเทเลอร์เพลงนี้ ทำให้นึก I knew you were trouble เลยครับ ... ร้องเพลงในโทนๆเดียวกัน
แต่สำหรับ Shake It Off จะเน้นจังหวะเน้นๆ สนุกๆ เรื่อยเปื่อยๆจนจบเพลง ตัวเมโลดี้ของเนื้อร้องกลางๆ แต่ทำบีทมาได้เหมาะเจาะดีจริงๆ ทำให้เพลงมีสีสันขึ้นเยอะครับ ตัว MV ก็ดูจะเข้าใจง่ายดี ^ ^
ก็ฟันธงว่าดังเหมือนเดิม สำหรับเพลงใหม่ของ Taylor Swift ^ ^

ปล. คอมเมนต์เค้ามีเถียงกันเรื่องการเหยียดสีผิวใน MV ตัวนี้ด้วย? ... งง ... ว่ามีท่อนไหนที่ให้อารมณ์เหยียดผิว? -*-

Olympus 45mm f1.8 มือสองถอยไป มือหนึ่งปรับราคาลงแล้ว!!

Olympus M.Zuiko 45mm f1.8 เลนส์ช่วงนิยมสำหรับการละลายหลังของโอลิมปัสตัวนี้ เป็นเลนส์ที่เป็นที่นิยมพอควรครับ
โดยราคาปกติของมันนั้น อยู่ที่ 12,990 บาทครับ ... ก็นับว่าแรงเหมือนกัน แต่แม้จะราคาแรง ก็ยังมีคนชอบและคว้ามันมาเป็นเจ้าของกันเยอะนะครับ
ราคามือสองก็จะเห็นราวๆ 8-9 พันบาทครับ ไม่เคยเห็นต่ำกว่านี้ ดังนั้นใครเจอมือสองราคา 7,900 บาท ก็ขายออกอย่างไวแล้วครับ (แทบจะไม่เจอแหละครับ ราคานี้)

แต่ตอนนี้ ขอบอกว่า Olympus M.Zuiko 45mm f1.8 ปรับราคาลงมาแล้วครับ แล้วก็ลง "หนัก" ซะด้วย!! ลงมาถึง 4,000 บาท
ราคาตอนนี้อยู่ที่ 8,990 บาท เท่านั้น!!
เป็นราคาที่บิ๊กคาเมร่านะครับ ร้านกล้องใหญ่ ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าอื่นๆ ได้ราคานี้ไปหรือไม่?

ตอนแรกเห็นราคาก็อุทาน คิดว่าโอลี่ปรับราคาเลนส์ตัวนี้ลงแล้ว แต่พอเช็คราคาจากเว็บ getolympus.com แล้ว พบว่าราคายังอยู่ที่หมื่นสองอยู่ครับ ตามภาพ
ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าการลดราคาครั้งนี้ อาจจะไม่ได้ตลอดไปครับ!!
รีบซื้อรีบจ่ายกันได้!! ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ครับ หลังจากนี้ราคาอาจจะเท่าเดิมก็เป็นได้!!

อย่างไรก็ตาม ก็น่าลุ้นเหมือนกัน ว่าถ้าราคาคงที่ขนาดนี้ต่อไป ราคามือสองอาจจะหล่นเหลือ 5,000 บาท ก็เป็นได้ ... เรียกว่าไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เพราะมันเดาอนาคตยากอ่ะนะ ว่าจะเอาไงดี 555+

ชนะ Poker คว้าเงิน 450 ล้านบาท!! แต่ดูหน้าเค้าสิ!! จืดสนิท!!

คลิปนี้คือคลิปการแข่งโป๊กเกอร์ (Poker) ของ Colman จากสหรัฐ กับ Negreanu จากแคนาดา
คนที่ชนะ ได้เงินรางวัล 15 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 450 ล้านบาทไทยนั่นเอง!! ขุ่นพระ!! มันเป็นเงินจำนวนมหาศาลมากๆ เศรษฐีได้เลยนะเนี่ย!! (ได้เงินเท่านี้ ผมลาออกจากงานละเอ้า)

ทว่า ... หากคุณดูคลิปเผินๆ คุณจะไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้ชนะ!! เพราะผู้ชนะ ทำหน้าทำตาประหลาดมากๆ ... ลองดูครับ
... หากคุณดูคลิปผ่านๆ คุณจะนึกว่าตาคนใส่สูทได้รางวัล 450 ล้านบาทไปครับ
แต่จริงๆ คนที่ได้คือ อีตาผู้ชายเสื้อดำ Colman ที่ทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมตลอดคลิปนั่นล่ะครับ หน้าเดิมตลอด ได้รางวัล 450 ล้านบาท ชนะเค้ามาได้ พี่แกก็ทำหน้าเหมือนโลกจะถล่ม ดินจะทลาย!! คือต่อให้อมรังแตนมา แต่ถ้าได้เงิน 450 ล้านบาท คนทั่วไปก็คงอ้าปากอ้อคอกันได้อ่ะนะ แต่อีตา Colman เนี่ย นอกจากหน้าตาจะนิ่งแล้ว ยังค่อนไปทางทุกข์ๆนิดๆยังไงไม่รู้

เห็นคลิปแล้วก็แอบสงสัยไม่ได้ ว่าถ้าชนะขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณพี่แกหรือเปล่าเนี่ย เหอๆๆ
...
ผมขำความเห็นหนึ่งใน Youtube นะ เค้าบอกว่า "Money cannot buy happiness..." กรณีนี้สงสัยจะจริง เหอๆๆ (จริงๆอีตา Colman อาจจะไปกระโดดโลดเต้นอยู่บ้านก็ได้นะครับ)
แล้วก็อีกความเห็นครับ เค้าบอกว่า "I believe it's called a poker face." 555+ นี่สินะ ที่มาของศัพท์ว่า Poker face หน้าพี่แกนิ่งจริงๆ 555+

ครีมกันแดด ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ลองดูคลิปนี้

คลิปนี้เป็นคลิปวิดีโอที่จะทำให้คุณอยากทาครีมกันแดดขึ้นมาทันทีครับ กับคลิปวิดีโอที่ชื่อว่า "How the sun sees you"
คลิปนี้เป็นคลิปที่ถ่ายภาพในช่วงรังสี UV ครับ

ปล. สำหรับคนที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์เลย ขอบอกง่ายๆแค่ว่า ภาพที่เรามองเห็น เป็นภาพที่เกิดจาก "แสง" ครับ ซึ่งแสงทำปฏิกิริยากับวัตถุเยี่ยงไร ก็มีภาพออกมาอย่างนั้น ... ซึ่งภาพของคลิปวีดิโอนี้ คือภาพที่เกิดจากรังสี UV ครับ (ยังมีภาพจากรังสีแกมม่า และอื่นๆอีกนะ)
หน้าใสๆ พอเจอมองด้วยรังสี UV เข้าไป เจอ "ฝ้าและกระ" ซ่อนเร้นเพียบ!! เลยครับ
ซึ่งถ้าเป็นผิวของเด็ก จะไม่เห็นนะครับ เค้าทำเปรียบเทียบไว้ให้ บางคนที่สุขภาพผิวดีๆก็ไม่เจอเช่นกัน
นอกจากนั้น หากคุณทาครีมกันแดด จะพบเลยว่า ครีมกันแดดกลายเป็นสีดำไปเลย ช่วยปกป้อง UV ได้จริงๆครับ เพราะพอเรามองในคลื่น UV จะกลายเป็นสีดำสนิทไปเลย นั่นหมายความว่ารังสี UV ผ่านไปไม่ได้นั่นเอง จึงเป็นสีดำ ... ดังนั้น หากต้องสัมผัสแดดแรงๆ ก็อย่าลืมทาครีมกันแดดกันนะ มันช่วยได้มากจริงๆครับ ^ ^

รีวิว เย็นเย็น รสเก๊กฮวยผสมน้ำผึ้ง (รสใหม่จ้า)

เย็นเย็น เครื่องดื่มจากแบรนด์ชาเขียวอย่างอิชิตันตัวนี้ ได้ออกมาตีตลาดพักนึงแล้ว และได้ผลตอบรับที่ดีมากๆ (รสเดิมก็คือจับเลี้ยงครับ)
มาครั้งนี้ เย็นเย็นเลยออกรสใหม่ ยึดมั่นอุดมการณ์ "คล่องคอ" กินแล้วสบาย เหมือนเดิม!! กับเย็นๆรสเก๊กฮวยผสมน้ำผึ้งครับ

หน้าตาขวดเป็นเยี่ยงนี้ล่ะครับ สีเหลืองๆ มีตัวหนังสือ Yen Yen
จากการกิน ขอบอกว่าอร่อยใช้ได้ ตอนแรกแอบกลัวว่ารสน้ำผึ้งจะแปร่งเกินไป จนแสบลิ้น แต่จริงๆแล้วเจือมาอ่อนๆให้พอได้กลิ่น ผสมกับเก๊กฮวยได้อย่างนิ่มนวล ตามชื่อของ เย็นเย็น นั่นแหละครับ ^ ^

ส่วนประกอบของเย็นเย็นตัวนี้มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ
พออ่านแล้วก็ถึงบางอ้อ ผงน้ำผึ้ง ... เอิ่มนะ ... 0.006% ... น้อยเหลือเกิน
พูดไปเหมือนจะประชดว่าน้ำผึ้งน้อย แต่จริงๆคือ "อร่อย" ครับ เท่านี้สูตรนี้แหละ ผมว่ากำลังดี หวานนิดๆให้ได้รสชาติ แต่ไม่หวานมากจนแสบลิ้น กินแล้วยังให้อารมณ์ชุ่มคอเหมือนเดิมครับ สำหรับเย็นเย็นน้ำเก๊กฮวยผสมน้ำผึ้งครับ ^ ^

รีวิว Shiseido Splendid Year End Premium สบู่ห้อมหอม ^ ^

รีวิวครั้งนี้ ไม่ขอเอ่ยถึงความเป็นมาหรือสรรพคุณของสบู่ Shiseido Splendid Year End Premium นะครับ เพราะไม่รู้ว่ามายังไงเหมือนกัน ได้มาจากคุณพี่สาวน่ะครับ
พลิกไปพลิกมา ก็ไม่เห็นจะมีบาร์โค้ด ... แล้วชื่อที่บอกว่า Splendid Year End Premium นั้น ... ชวนให้สงสัยว่าเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับ Event อะไรหรือเปล่า?
แต่ก็ช่างมันเหอะ ... เอาเป็นว่า ได้ลองมาใช้ฟรีๆทั้งที ก็เอามารีวิวบอกต่อไว้ก่อนแล้วกัน
ขนาดก็ 100 กรัมครับ แล้วก็มีบอกวันผลิตและหมดอายุด้วยนะเนี่ย สบู่เนี่ย (หมดอายุไวเหมือนกันนะ ขนาดเป็นแค่สบู่ ยาหรืออาหารบางอย่างยังนานกว่านี้เลย แสดงว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ น่าจะมีหลายๆอย่างที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติน่ะครับ)
และพอแกะมาจากซอง ... มีประกายสีทองระยิบระยับในเนื้อสบู่ ^ ^
แกะมาให้ดูทั้งก้อน ไม่ได้มีอะไรมากเลยครับ ลวดลายก็ไม่มี เป็นก้อนกลมๆดื้อๆแบบนี้แหละครับ มีผงประกายทองระยิบระยับแทรกซึมในเนื้อสบู่ ดูสวยมากๆ
นอกจากนั้น กลิ่นของมันเหมือนมีกลิ่นน้ำหอมผสมอยู่ด้วย แต่ไม่ใช่น้ำหอมโลว์เกรดแบบน้ำหอมผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มนะครับ เป็นกลิ่นหอมที่มีมนต์ขลังไม่แพ้น้ำหอมแบรนด์เนม ซึ่งจัดว่าหอมใช้ได้เลยทีเดียว
และจากการใช้ พบว่าสบู่ตัวนี้ เป็นสบู่ที่ไม่ทำให้ผิวแห้งแกร๊กครับ คือสบู่ส่วนใหญ่จะทำให้ผิวแห้งกว่าครีมอาบน้ำ แต่ครีมอาบน้ำบางทีก็เหมือนล้างออกจากตัวไม่หมด หาจุดกึ่งกลางไม่ได้
แต่สบู่ Shiseido Splendid Year End Premium ตัวนี้ ผมว่าใช่เลยนะ ไม่ทำให้ผิวแห้ง แต่ก็ไม่รู้สึกตกค้างบนผิว ใช้ดีมากๆครับ แถมกลิ่นหอมของมันคาดว่าหลายๆคนจะชอบได้ไม่ยาก
...
หากสนใจ ... ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปหามาจากไหนเหมือนกัน 555+ (ใครรู้ก็มาคอมเมนต์บอกกันได้ครับ)