ขอแนะนำคีรีตา ... Keereeta - Koh Chang โรงแรมฮิปๆ ที่เกาะช้างครับ ^ ^

ส่วนตัวประทับใจกับเวบไซต์ของ Keereeta เป็นพิเศษ
เพราะเหตุใด อ่านได้ที่นี่ครับ -->> หน้าม้าสมัครใจกับ Keereeta

คีรีตา เกิดจากการผสมผสานของสถาปัตยกรรมในเอเชีย ซึ่งผสมผสานด้วยศิลปะแบบสุโขทัย และอยุธยาที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มีห้องพัก หลายรูปแบบ มีทั้งแบบจีน ที่เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบทางเดินสีแดง และชิงช้า ด้านข้างจะพบกับซุ้มประตูโค้ง ซึ่งเป็นทางเดินผ่านมาสู่ส่วนของห้องนอน เตียงก่อเป็นปูนสีดำ แบบที่สอง แบบบาหลี มีตั่งแบบล้านนาตั้งอยู่บนพื้นไม้ เวลามองจะมองเห็นเงาสะท้อนแสงไฟที่ส่องกระทบหลังคา ดูสวยแปลกตา รูปแบบสุดท้าย นั้นจะพิเศษกว่าห้องอื่น เพราะด้านในห้องน้ำจะมีบันไดสามารถเดินขึ้นไปสู่ดาดฟ้าส่วนตัวได้ ซึ่งจะมองเห็นวิวทะเลจากมุมสูงได้ โดยสีสันหลักๆ ที่นำมาใช้ในแต่ละห้องนั้น ประกอบไปด้วยสีโทนร้อนตัดกับสีดำ
และประดับรูปภาพดอกไม้นานาชนิดที่เขียนบนกระดานไม้เก่าภายในห้องน้ำเป็นห้องน้ำเปิดตรงส่วนที่เป็นอ่างน้ำซึ่งทำด้วยอ่างไม้สักที่สามารถเปิดให้น้ำไหลออกมาได้จากกำแพงหินทราย ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลายต่อแขกผู้มาเยือน

และนี่คือรูปเล็กๆน้อยๆที่นำมาจากเวบไซต์ของคีรีตาครับ










หมายเหตุ :
คีรี ตา รีสอร์ทตั้งอยู่บนเกาะช้าง อยู่ระหว่างหาดทรายขาวกับหาดคลองพร้าว ระยะทางจากหาดทรายขาวและคลองพร้าวประมาณ 2 กิโลเมตร คีรีตารีสอร์ทไม่ได้ตั้งอยู่ติดกับทะเล ห่างจากทะเล 200 เมตร โดยที่คุณสามารถมองเห็นทะเลได้จากที่รีสอร์ท

เยี่ยมชมเวบไซต์ของ คีรีตาได้ที่ http://www.keereeta.com ครับ

แนะนำคีรีเอเล ... Keereeele - Koh Chang โรงแรมฮิปๆ ที่เกาะช้างครับ ^ ^

ส่วนตัวประทับใจกับเวบไซต์ของ Keereeele เป็นพิเศษ
เพราะเหตุใด อ่านได้ที่นี่ครับ -->> หน้าม้าสมัครใจกับ Keereeta

โรงแรมคีรีเอเล เกาะช้าง จังหวัดตราด ประเทศไทย "เกาะช้าง" มีความงดงามและมีความเป็นธรรมชาติ อย่างมาก มีทั้งทะเล ภูเขา น้ำตกและป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์มาก ซึ่งโรงแรมคีรีเอเลเป็นสถานที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศและการพักผ่อนที่แท้จริง โรงแรมคีรีเอเล มีการตกแต่งแบบ Hip Asia Hotel ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายขาว หาดทรายขาวถือเป็น Town centre ของเกาะช้าง มีหาดทรายที่ยาว สวยงาม ทรายสีขาวเป็นหาดแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้พบ และสัมผัสเมื่อเดินทางมาเกาะช้าง

โรงแรมคีรีเอเลตั้งอยู่ใกล้แหล่งสะดวกสบายในการจับจ่ายซื้อของ มีร้านอาหารหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งอาหารไทยและยุโรป ที่ทางลงหาดสาธารณะซึ่งเดินจาก โรงแรมคีรีเอเลไปหาดทรายขาวประมาณ 300 เมตร ระหว่างทางมีร้านค้าให้เลือกซื้อของที่ระลึกและ ของใช้มากมาย โรงแรมคีรีเอเล มีร้านอาหารในโรงแรม มีเมนูอาหารซีฟู๊ด ไทย จีน ยุโรป ไว้หลากหลายให้คุณ ได้ลิ้มลองจากพ่อครัวฝีมือเยี่ยมของโรงแรม

โรงแรมคีรีเอเล มีสระว่ายน้ำส่วนตัวของโรงแรมซึ่งจัดไว้ให้เฉพาะลูกค้าโรงแรมเท่านั้น น้ำตกในสระ และจากุซซี่กลางแจ้ง อีกทั้งมีบริการทัวร์นำเที่ยว ดำน้ำชมประการัง ดำน้ำลึก นั่งช้างชมป่าและลำธาร พายเรือคายัก นั่งเรือชมหิ่งห้อย รถเอทีวี กิจกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่ treetop adventure (สวนสนุกบนต้นไม้) และอื่นๆอีกหลายรูปแบบ และนี่คือรูปเล็กๆน้อยๆครับ







ดูรูปและรายละเอียดได้ที่เวบของทางโรงแรมที่ http://www.keereeele.com ครับ
ราคาที่พักไม่แพงครับ แค่ 2 พันกว่าๆเท่านั้น ^ ^

แนะนำคีรีตา ลากูน ... Keereeta Lagoon - Koh Chang รีสอร์ทฮิปๆ ที่เกาะช้างครับ ^ ^

ส่วนตัวประทับใจกับเวบไซต์ของ Keereeta Lagoon เป็นพิเศษ
เพราะเหตุใด อ่านได้ที่นี่ครับ -->> หน้าม้าสมัครใจกับ Keereeta

คีรีตา ลากูนเป็นรีสอร์ทขนาดเล็กมีจำนวนห้องพักเพียง 5 ห้อง
เกิดจากการผสมผสานของสถาปัตยกรรมในแบบยุโรปตะวันออก
ระหว่างศิลปะแบบโมรอคโคและแบบไทย ซึ่งที่ให้ความ รู้สึกผ่อนคลาย
และมีความเป็นส่วนตัว ภายในห้องจะเน้นสีขาวเป็นหลักตกแต่งด้วย
เฟอร์นิเจอร์วัสดุชั้นดี และที่พิเศษสุดคือเตียงนอนเน้นสีโทนที่
แตกต่างกันในแต่ละห้อง เพื่อให้เหมาะกับรูปภาพดอกไม้ไทยนานาชนิด
ที่เขียนลงบนแผ่นกระดานไม้เก่าอย่างลงตัวและสวยงาม

คีรีตา ลากูน จะอยู่ติดริมคลองน้ำ สามารถพายเรือคายักจากรีสอร์ท
ไปยังโขดทรายที่หาดคลองพร้าวเพื่อสัมผัสกับริมชายหาดทรายที่สวยงาม
เหมาะกับการพักผ่อนที่แท้จริง ไม่ว่าจะเดินเล่นริมชายหาด พายเรือคายัก
เฝ้าชมพระอาทิตย์ยามเย็นลับขอบฟ้า เห่กล่อมด้วยสายลม ท่องป่าบน
เกาะช้าง เที่ยวน้ำตกคลองพูล จะตกปลา ดักปูทะเล อีกทั้งยังมีปูราชินี
ก้ามแดงให้เราเห็นอีกด้วย











ราคาเบ็ดเสร็จ 4,000 บาท ต่อห้อง/ 2 คน ครับ ^ ^

หมายเหตุ
คีรีตา ลากูน ตั้งอยู่บนเกาะช้าง หาดคลองพร้าว ระยะทางห่างจาก
หาดทรายขาวประมาณ 5 กิโลเมตร คีรีตา ลากูนไม่ได้ตั้งอยู่ติด
กับทะเล แต่ห่างจากทะเลเพียง 200 เมตร โดยที่คุณสามารถ
มองเห็นทะเลได้จากที่บริเวณหน้ารีสอรทและสามารถ
พายเรือคายักออกสู่ท้องทะเลได้

เยี่ยมชมเวบไซต์ของ Keereeta Lagoon ได้ที่นี่ครับ
http://www.keereetalagoon.com

คีรีตา รีสอร์ทเกาะช้าง แนะนำพิเศษ Keereeta , Keereeta Lagoon และ Keereeele ... ประทับใจเป็นการส่วนตัว เมื่อเห็นเวบไซต์!!

รอบนี้ขอเป็นหน้าม้าแบบสมัครใจ โปรโมทรีสอร์ท 3 แห่ง ในเกาะช้างครับ
โดยทั้ง 3 รีสอร์ทนี้ก็คือ ...
1. http://www.keereeta.com
2. http://www.keereetalagoon.com
3. http://www.keereeele.com
...
Keereeele จะเป็นโรงแรมเปิดใหม่ซิงๆนะครับ

ลองเข้าไปดูตามลิงค์นะครับ
ดูแล้วรู้สึกอะไรเหมือนกับผมหรือเปล่า? สำหรับรีสอร์ทที่ชื่อว่า คีรีตา คีรีๆๆๆ ทั้ง 3 แห่งเหล่านี้
...
คือ ต้องขอออกตัวก่อนว่า บล็อคที่ผมทำขึ้นมานี้ นอกจากรีวิวที่เที่ยวแล้วก็โรงแรม ซึ่งเดินทางไปด้วยตัวเองมาแล้ว
ผมยังเอาโรงแรมรีสอร์ทต่างๆที่เปิดใหม่ หรือน่าสนใจ มาโพสต์แนะนำกันด้วย ... โดยข้อมูลก็มาจากเวบของรีสอร์ทนั้นๆนั่นเอง แล้วผมก็ทำลิงค์กลับไปยังรีสอร์ทอีกที ... เพื่อเป็นแนวทางในการหารีสอร์ทที่น่าสนใจแก่ผู้ที่เข้าบล็อคของผม
...
...
แต่ รีสอร์ท ทั้ง 3 แห่งนี้ มีจุดหนึ่งในเวบไซต์ที่ต้องขอ "ชื่นชม" เป็นกรณีพิเศษ
นั่นก็คือ นอกจากบอกข้อดี และจุดเด่นของที่พักแล้ว ... ยังบอกจุดด้อย ให้กับผู้เยี่ยมชมเวบไซต์ได้รับทราบอีกด้วย!!
เพื่อให้ผู้ที่คิดจะเข้าพัก ทราบจริงๆว่ารีสอร์ทและที่พักแห่งนี้ เป็นอย่างไร ดีอย่างไร น่าพักสำหรับตนไหม?
ไม่ใช่ว่าเอาภาพสวยๆมาหลอก แล้วไม่ใส่ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับรีสอร์ทเลย
โดยประโยคที่ผมชอบคือ
หมายเหตุ :
คีรี ตา รีสอร์ทตั้งอยู่บนเกาะช้าง อยู่ระหว่างหาดทรายขาวกับหาดคลองพร้าว ระยะทางจากหาดทรายขาวและคลองพร้าวประมาณ 2 กิโลเมตร คีรีตารีสอร์ทไม่ได้ตั้งอยู่ติดกับทะเล ห่างจากทะเล 200 เมตร โดยที่คุณสามารถมองเห็นทะเลได้จากที่รีสอร์ท
...
เป็นประโยคที่นำมาจากเวบ http://www.keereeta.com ครับ
ซึ่งถ้าคุณเข้าไปดูในเวบของเค้าคุณจะเห็นว่า "ภาพจากรีสอร์ทนั้น หลอกคนเข้าพักได้สบายๆเลย ว่าติดทะเล"
เพราะจากห้องพักชั้นสูงๆนั้น สามารถเห็นวิวทะเลได้ไม่ไกลนัก (อย่างที่ว่า ห่างแค่ 200 เมตร) แถมยังสวยอีกต่างหาก
ถ้าเป็นรีสอร์ทอื่นก็คงบอกว่า "ติดทะเล" หรือไม่ก็ "ไม่บอกอะไร" ไปแล้ว (ผมดูข้อมูลในเวบไซต์ แล้วเอามารีวิวเยอะพอควร เลยรู้ว่ามันแตกต่างจริงๆ เ้วบอื่นๆส่วนใหญ่จะมีแต่ข้อดีและภาพสวยๆ นอกนั้นปิดเงียบจริงๆ)
...
ซึ่งประโยคที่บอกว่าใกล้ ไกลจากทะเลแค่ไหนนั้น มีบอกไว้ในทั้ง 3 เวบเลยครับ ^ ^

นอกจากนี้ คุณลองดูภาพจากเวบ http://www.keereetalagoon.com ดูนะครับ (เวบนี้ก็มีบอกเหมือนกัน ว่าไม่ติดทะเล แต่มีดีที่พายเรือคายัคไปทะเลได้ เพราะอยู่ติดคลอง)
จะเห็นว่า มีการถ่ายภาพให้เห็นรอบๆบริเวณรีสอร์ทด้วย ว่าใกล้แหล่งชุมชนเหมือนกัน แต่ตัวรีสอร์ทเค้าก็สวยมากๆอยู่นะ
... ซึ่งถ้าเป็นที่อื่นคงปิดเงียบ ถ่ายภาพมาให้เห็นเฉพาะตัวรีสอร์ทสวยๆไปแล้ว ซึ่งข้อดีตรงจุดนี้ ที่ http://www.keereeele.com ก็มีให้ดูเหมือนกัน (วิวสูงๆ ที่เห็นหลังคาบ้านผู้คน ก่อนออกสู่วิวทะเล)

...
เท่านั้นไม่พอ
^ ^
คุณดู "ราคา" ที่พักของเค้าก่อนครับ
ที่พักเค้า ตั้งราคา 3-4 พันได้เลย
แต่ราคาเพียง 2 พันเท่านั้นครับ (ในส่วนของ keereeta กับ keereeele)
ซึ่งส่วนตัวคิดว่าราคาสมเหตุสมผลมากๆ

และท้ายที่สุด รีสอร์ททั้ง 3 แห่งนี้ แม้ไม่ติดกับหาดทรายขาว หาดทรายที่สวยสุดบนเกาะช้าง แต่ก็แทบจะติดเลยครับ (keereeele นี่ตั้งอยู่หน้าหาดทรายขาวครับ ห่่าง 300 เมตร)
จะโกหกคนดูเวบว่า "รีสอร์ทตั้งอยู่ที่หาดทรายขาว" ไปเลยก็ได้ แต่ก็มีบอกครับ ว่าห่างจากหาดเท่าไหร่ อะไรยังไง ^ ^
...
พูดง่ายๆคือ ข้อมูลจริงใจ
และ แท้จริงๆแล้ว รีสอร์ทก็น่าพักมากๆด้วยอยู่แล้ว
ทำให้ประทับใจมากๆครับ ^ ^

ก็ ... คนอื่นเห็นข้อมูลแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า? ^ ^"
แต่ส่วนตัวประทับใจครับ คาดเดาเอาเองว่า เวบทำดีแบบนี้ บริการก็น่าจะดีตามไปด้วย
ใครเคยไปแล้วเป็นยังไง? ก็มาแสดงความเห็นได้นะครับ ^ ^

Toyota Aygo : Eco Car ตัวเก็ง ที่คาดว่าโตโยต้าจะนำมาขาย ... ในอนาคตที่ไม่ใกล้นัก -*-

หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มมีตลาดรถ Eco Car เข้ามา เนื่องด้วยเรื่องภาษี
หลายๆคนก็ให้ความสนใจกับ Eco Car
...
โดยเฉพาะกับค่ายรถยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Toyota ... ซึ่งหลายๆคนก็สนใจว่า จะเป็นรถตัวไหนรุ่นอะไรนะ?
...
ข่าว ณ ปัจจุบัน เค้าว่ากันว่า Toyota Aygo นี่แหละครับ (อ่านว่า ไอโก้) ^ ^

ก็เอารูปมาให้ดูกันครับ (ดูสิ ว่าจะสวยกว่า Nissan March หรือไม่ ... แต่ที่แน่ๆ รู้แต่ว่าวางขายช้ากว่า Nissan March เป็นปีล่ะครับ)




ก็รอดูกันต่อไปครับ ว่าโตโยต้าจะส่ง Eco Car ตัวนี้มาขายหรือไม่ (รอเป็นปีๆ -*-)

Nissan March 2010 : Eco Car คันแรกในไทยที่มาจากค่ายยักษ์ใหญ่ ... เบื่อนั่งรถทัวร์เที่ยวกันหรือยัง? ^ ^

ไหน? ใครเบี้ยน้อยหอยน้อย แต่อยากได้รถสำหรับขับไปเที่ยวเองบ้าง~~~
ไหน? ใครเบี้ยเยอะหอยเยอะ แต่งกเงิน ไม่อยากซื้อรถแพงๆขับบ้าง~~~
เหล่าเศรษฐีตจว.ที่แกล้งทำตัวซอมซ่อทั้งหลาย~~~
เหล่าวัยรุ่นมีตังค์ที่เอาแต่เก็บเงินแต่งภรรยาเอ๋ย~~~
... จงหันมาทางนี้~~~!!

ปี 2010 หรือ 2553 ... เดือนมีนาคม
ประเทศไทยจะมีรถ Eco Car ราคา 3 แสนถึง 4 แสน (เดาว่าน่าจะสามแสนปลายๆ ถึง 4 แสนต้นๆ -*-) จากค่ายใหญ่ๆอย่าง Nissan มาใหได้ซื้อได้ขับกันแล้วครับ ^ ^ (จริงๆมีปล่อยมาเยอะแล้ว แต่ไม่ใช่ค่ายยักษ์ใหญ่ไง ^ ^)
นามนั้นก็คือ Nissan March ครับ ^ ^
เครื่องยนต์ เห็นว่า 1,200 cc. นะครับ (จริงๆจะเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ถ้าไม่ใช่ 1,200 cc. ก็น่าจะน้อยกว่านี้)

และนี่คือภาพรถ(ภาพ CG) ที่น่าจะเป็นภาพจริงของรถครับ ^ ^





ก็รอดูกันครับ ว่าถึงเวลาวางขายแล้ว จะเป็นยังไง เหมือนภาพนี้ไหม? ^ ^
ถ้ามีข้อมูลมากขึ้น ก็จะเอามาอัำพเดทให้ดูกันเพิ่มครับ ^ ^ (ตอนนี้มีแค่ภาพนี่แหละ -*-)

---------------------------------

อัพเดทข้อมูลครับ สรุปก็ตามภาพเลยครับ ออกโฆษณากันแล้ว ^ ^
และนี่คือข้อมูลเพิ่มเติมครับ ^ ^

- ราคา Nissan March อย่างเป็นทางการ ณ มีนาคม 2553
- สิ่งที่ขาดหายไป สำหรับ Nissan March รุ่นต่ำสุด
- ภาพของจริง ตัวเป็นๆของ Nissan March 2010

ถ้ามีข้อมูลเพิ่ม ก็จะอัำพเดทเพิ่มอีกครับ ^ ^ (ที่บ้านเห่อนิสสันมาร์ชเหมือนกัน แม่กำลังอยากได้มาก ^ ^")

---------------------------------

อัพเดท โฆษณาของ Nissan March ครับ (ให้สาวๆดูโดยเฉพาะเลย ^ ^) ก็คาดว่าหลายๆคนคงเห็นในทีวีกันแล้ว
ปล. ผมเห็นตัวสีชมพูวิ่งแล้วอ่ะ ไม่น่าใช่โฉมเก่านะครับ ไม่น่าดูพลาดขนาดนั้น ป้ายแดงด้วย (แต่ดูในเวบไม่เห็นมีสีชมพูให้จองเลย ก็เลยงงๆ)

---------------------------------

อัพเดทครับ!!
ไม่เกี่ยวกับ Nissan March แต่เี่กี่ยวกับรถ ECO อีกเจ้าหนึ่งที่ถูกมากๆ ... และอาจจะเข้าไทยครับ ^ ^
นั่นก็คือ TATA Nano นั่นเองครับ
ติดตามรายละเอียดได้ที่ หน้านี้ ครับ ^ ^

รถ Eco Car ในเมืองไทย จะมียี่ห้ออะไร รุ่นอะไรบ้างหนอ?

ตอนนี้ประเทศไทยเริ่มๆมีรถอีโค่คาร์เข้ามาในประเทศละ ภาษีที่ถูกทำให้กลายเป็นตลาดรถที่น่าลงทุน
หลายๆคนที่ยังไม่มีรถเพราะเบี้ยน้อยหอยน้อย แต่อยากขับรถเที่ยวเอง ก็คงเล็งๆอยู่ใช่ไหมล่ะครับ? ^ ^
มาดูกันดีกว่า ว่าตอนนี้และอนาคต มันมีรถอะไรกันบ้าง

- Naza Forza : วางขายแล้ว
- Proton Savvy : วางขายแล้ว
- Chery QQ : วางขายแล้ว -->> คลิก
- Nissan March : กำหนดวางขาย มีนาคม 2010 -->> คลิก
- Toyota Aygo : ยังไม่แน่นอนทั้งรุ่นรถและกำหนดการ -->> คลิก
- Suzuki Splash หรือไม่ก็ Suzuki Swift : ยังไม่แน่นอนทั้งรุ่นรถและกำหนดการ
- Honda : ยังไม่มีข่าวอะไรเลย นอกจากจะทำ Eco Car ด้วย

ถ้ามีรถยี่ห้ออื่นๆ หรือข้อมูลเพิ่มเติม จะเอามาบอกนะครับ ^ ^

รถ ECO Car เช่นพวก Nissan March หรือรถเล็กๆ อย่าง vios, city ... ขับทางไกล, ต่างจังหวัด, เที่ยวไกลๆ ... ไม่ดีจริงหรือ??

บทความนี้ เขียนขึ้นมาเพื่ออยากแชร์ความเห็นให้กับคนที่คิดจะซื้อ Eco Car แต่กังวลว่าจะขับไกลไม่ได้ น่ะครับ

ตอนนี้มีกระแสเรื่องที่่ว่า ถ้าจะซื้อรถเล็กๆล่ะก็ อย่าดีกว่า ... อย่างมากก็ได้แต่ขับไปจ่ายตลาดเท่านั้น
ถ้าต้องเดินทางไกลหรือขับไปต่างจังหวัดล่ะก็ ต้องรถคอมแพคขึ้นไปถึงจะเวิร์ค (Altis, Civic, 3, Focus)
...

ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าค่านิยมแบบนี้มาจากไหน ^ ^"
จริงๆแล้ว ถามว่า รถคอมแพคขับดีกว่า ECO car หรือ ซับคอมแพคคาร์หรือไม่?
คำตอบก็คือ "ขับดีกว่า" จริงๆนั่นแหละครับ

แต่คำว่า ขับดีกว่านี้ ไม่ได้หมายความว่า ขับได้ไกลกว่า หรือขับได้นานกว่าแต่อย่างใดครับ ... พูดตรงๆคือไม่ต่างกัน
และที่ว่าไม่ต่างกันเนี่ย หมายถึงดูเฉพาะในช่วงระยะเวลาหรือระยะทางที่มนุษย์คนนึงจะทนขับได้ครับ เช่น ขับสัก 500-1,000 กิโลติดต่อกัน หรือขับติดต่อกัน 4-6 ชม. ซึ่งรถอีโค่คาร์ทำได้ครับ ^ ^"
ถ้าวัดกันแบบว่าขับหมื่นโลติดต่อกัน ... รถ Eco Car ก็ไปไม่ไหวแน่ๆ ซึ่งคอมแพคอาจจะไหวอยู่
ตัวอย่างเช่น ผลทดสอบรถ (สมมุติๆนะครับ)
- Eco car ขับติดต่อกันได้นานสุด 12 ชม. โดยไม่ต้องหยุดพักรถ
- Sub Compact ขับติดต่อกันได้นานสุด 15 ชม. โดยไม่ต้องหยุดพักรถ
และ
- Compact car ขับติดต่อกันได้นานสุด 20 ชม. โดยไม่ต้องหยุดพักรถ
...
ดังนั้น ถ้าถามว่า Compact Car ขับได้นานกว่าและไกลกว่า Eco หรือ Sub Compact หรือไม่?
คำตอบก็คือ "ใช่"
แต่
ถ้าถามว่า Eco Car ขับไกลๆไม่ได้ ใช่หรือไม่?
คำตอบก็คือ "ไม่" ครับ
เพราะคงไม่มีใครบ้าขับ Eco Car ตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 18.00 น.โดยไม่หยุดพักรถหรอกครับ -*-
เพราะถ้าไม่หยุดพักรถ คนขับจะตายซะก่อน!!
ดังนั้น ถ้าแค่กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หรือสุไหงโกลก ล่ะก็ ... Eco Car ก็ทำได้ครับ ^ ^
(ส่วนตัว รถที่ขับทางไกลไม่ได้ มีแค่แบบเดียวคือ "รถไม่มีแอร์" ครับ ^ ^ ... จริงๆมันก็ได้ล่ะ แต่คนขับคงเหนื่อยและทรมาณกันน่าดู ^ ^")


อ้าว ... ถ้ามันไม่ต่างกัน แล้วจะซื้อคอมแพคทำไม?
คำตอบก็คือ "คอมแพคขับดีกว่า" นั่นแหละครับ ... แต่ "ไม่เกี่ยวกับเรื่องระยะทาง หรือขับไปต่างจังหวัดได้"
ที่ว่าขับดีกว่านี่มันหมายถึงอัตราเร่งทำได้ดี เข้าโค้งดี ตัวรถใหญ่นั่งสบายกว่า เหยียบได้มากถึง 180 กม./ชม.สบายๆ ... เป็นต้น
ซึ่งอีโค่คาร์ เร่งมากสุดก็แค่ 130 กม./ชม. ... ขับปกติๆก็คงได้แค่ 100-110 กม./ชม.(ซึ่งความเร็วระดับนี้ก็ขับไปไหนมาไหนได้สบายๆแล้ว)
...
ดังนั้น ถ้าคุณต้องขับรถไกลๆสัก 100-200 กิโล บ่อยๆ ล่ะก็
มีเงินพอ ผ่อนไม่ลำบาก ก็ Compact Car จะดีกว่าครับ ไม่ต้องงก
แต่ถ้าเงินไม่พอ ก็ Eco Car ได้ครับ ... ไม่ต้องกังวลว่า เงินน้อย แต่ต้องขับไกล ทำไงดี คอมแพคมือสองดีไหม?(ทั้งๆที่ดูรถไม่เป็นเลย) หรอกนะครับ ขับไกลได้เหมือนกัน ^ ^
(มิร่า รถ Eco Car ในอดีต ยังขับไปเชียงใหม่ และขึ้นคอยสุเทพได้เลยครับ ... แล้วรถอีโค่คาร์สมัยนี้ที่เทคโนโลยีดีกว่า จะทำไม่ได้เชียวหรือ)


...
...
ก็ อีกหนึ่งความคิดความเห็นครับ
^ ^

Mount Kilimanjaro, Tanzania - ยอดเขา คิลิมันจาโร ประเทศแทนซาเนีย ... ภูเขาไฟงามๆที่ดับแล้ว

Kilimanjaro, with its three volcanic cones, Kibo, Mawenzi, and Shira, is an inactive stratovolcano in north-eastern Tanzania rising 4,600 m (15,092 ft) from its base (and approximately 5,100 m/16,732 ft from the plains near Moshi), and is additionally the highest peak in Africa at 5,892 metres (19,331 ft), providing a dramatic view of the surrounding plains.

คิลิมันจาโร เป็นยอดเขาที่ประกอบไปด้วยยอดเขา 3 ยอดที่เป็นภูเขาไฟที่ดับไปแล้ว (ทั้ง 3 ยอดได้แก่ Kibo, Mawenzi และ Shira)
ตั้งอยู่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแทนซาเนีย โดยเฉลี่ยสูงจากระดับน้ำทะเล 4,600 เมตร (15,092 ฟุต)
และส่วนที่สูงที่สุด ถือเป็นส่วนที่สูงสุดในทวีปแอฟริกาเลย หากไปยืนบนนั้นจะเห็นวิวที่สวยงามมากๆ

Chery Tiggo - หนูเชอรี่อีกรุ่น จากเฌอรี่ คันนี้แนว SUV ครับ



รูปก็ตามคลิปเลยครับ
ตัวนี้เครื่อง 2.0 ครับ แบ่งเป็นเกียร์ MT กับ AT
โดย MT ราคา 789,000
และ AT ราคา 825,000 ครับ

ปล. ตัวนี้มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยนะครับ!! ^o^
(แต่ตัว Eastar Cross ไม่มีนะครับ)

Chery Eastar Cross - หนูเชอรี่ อีสตาร์ครอส รสอีกรุ่นของ เฌอรี่ ครับ ^ ^

นอกจาก Chery QQ แล้ว
ทางเฌอรี่ ก็ยังมีรถเตรียมจำหน่ายอยู่อีกตัวครับ ชื่อรุ่นคือ Chery Eastar Cross

ตัวนี้เป็นรถ MPV ครับ เปิดตัว 2 รุ่น
เครื่อง 2,000 cc. ทั้งสองรุ่นครับ (มีแต่เกียร์ออโต้)
ราคาก็อยู่ที่ 888,000 บาท (จงใจเลขสวยป่าวเนี่ย)
และ 915,000 บาทครับ

และนี่คือโฉมหน้าครับ ^ ^ อาจจะไม่ชัดไปหน่อย


ส่วน คลิปตัวนี้ เป็น Eastar ตัวเก่าปี 2008 รุ่น sedan นะครับ

Chery QQ - Yarnyon หนูเชอรี่ จากไทยเฌอรี่ยานยนตร ... อุปตัวเงียบ อยู่ๆก็โผล่!! ราคาจะแพงไหมนะ -*-

ดูโฆษณาทีวีอยู่ครับ
อยู่ๆก็มีโฆษณารถโผล่มาซะงั้น!!

Chery QQ ... จากไทยยานยนตร ... รถยี่ห้ออะไรเนี่ย!! เพิ่งเคยได้ยิน!! *0*
ก็เลยไปคุ้ยๆข้อมูลมา

ก็เลยขอเอามาประกาศในเวบไซต์กันหน่อยว่า ...
... นอกจาก Nissan March แล้ว ... มีรถยี่ห้อโนเนมปิดตัวเงียบเตรียมส่งรถออกมาขายด้วยแฮะ
Chery เป็นยี่ห้อจีนครับ แต่คนไทยคงไม่ค่อยรู้จัก ^ ^
ดังนั้นตลาด ECO Car อาจจะแข่งกันมันส์ก็ได้ (ถึงหลายๆคนจะนิยมรถยี่ห้อดังๆก็เถอะ แต่มีแบรนด์ใหม่ๆออกมาแข่ง ผมก็ว่าน่าสนุกดีนะ ^ ^)
เครื่องยนต์ก็อยู่ที่ 1083 cc. ครับ

มีอย่างนึงที่บ่งบอกว่า Chery QQ ทำการสำรวจตลาดไทยมาอย่างดีก็คือ เค้ารู้ว่ายี่ห้อของเค้านั้น คนไทยกังวลเรื่องอะไหล่แน่ๆ
เค้าเลยมีข้อมูลอะไหล่และราคาไว้ในเวบเค้าด้่วยครับ ที่ http://www.thaichery.com/services02.html ^ ^
เพื่อย้ำกันเลยว่าอะไหล่ไม่โหดไม่โฉดนะเออ ^ ^
พูดถึงความเชื่อมั่นของแบรนด์นี้แล้ว หลายๆคนอาจจะกลัวว่ามาแล้ว "หาย" แบบที่เคยมีมาแล้ว
ก็ อยากจะบอกว่าไม่ได้นำเข้าโดยค่ายรถที่ชอบนำเข้ารถมาแล้วหายนะครับ
เห็นว่า Chery ในไทยนั้น เป็นการร่วมทุนกับบริษัท ซีพี หรือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ น่ะครับ ซึ่งก็ถือว่าประวัติทางการเงินของบริษัทนั้นดีมาตลอด
แต่มาร่วมทุนขายรถเนี่ย ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ส่วนตัวก็เดาๆว่าน่าจะดีกว่าบริษัทนำเข้าก่อนหน้านี้ครับ

ราคาตัว MT อยู่ที่ 366,900 บาท และ 384,900 ครับ
ส่วนตัว Auto ราคาอยู่ที่ 411,900 และ 429,900 ครับ

มีคลิปเกี่ยวกับ Chery QQ ใน youtube เพียบเลยครับ ลองไปดูล่ะ ^ ^


พาชม Burj Al Arab ที่ดูไบ ... โรงแรม 7 ดาว แห่งเดียวในโลก!!

The Burj Al Arab (Arabic: برج العرب‎,Tower of the Arabs) is a luxury hotel located in Dubai, United Arab Emirates. At 321 m (1,050 ft), it is the third tallest building in the world used exclusively as a hotel. However, the structure of the Ryugyong Hotel in Pyongyang North Korea, is 9 m (30 ft) taller than the '"Burj Al Arab'", and the Rose Tower, also in Dubai, topped Burj Al Arab's height at 333 m (1,090 ft), becoming the world's tallest hotel. The Burj Al Arab stands on an artificial island 280 m (920 ft) out from Jumeirah beach, and is connected to the mainland by a private curving bridge. It is an iconic structure, designed to symbolize Dubai's urban transformation and to mimic the sail of a boat.

Burj Al Arab โรงแรมหรูแห่งดูไบ ประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แห่งนี้เป็นโรงแรมที่สูงถึง 321 เมตร ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
Burj Al Arab ตั้งอยู่บนเกาะที่ถมใหม่บนทะเล (*0*) ห่างจากชายหาดยูเมร่าห์ 280 เมตร ซึ่งมีสะำพานเชื่อมระหว่างตัวโรงแรมและชายหาด
โรงแรมแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงดูไบเลยทีเดียว ลักษณะของโรงแรมแห่งนี้ มีลักษณะคล้ายๆกับใบเรือครับ

และนี่ก็คือโฉมหน้าของ Burj Al Arab ครับ!!
อลังการงานสร้างไหมล่ะ?




คลิปวิดีโอ ทัวร์ Burj Al Arab ครับ ให้เห็นภายใน โครงสร้าง และการบริการกันแบบชัดๆครับ ^ ^

โรงแรม 5 ดาว คืออะไร? ต้องมีอะไรบ้าง?

โรงแรมขนาดใหญ่ประเภทหรู มีมาตราฐานสากลระดับสูงในทุก ๆ ด้าน คือทั้งด้านห้องพัก ห้องอาหาร การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

ห้องพักมีการตกแต่งที่สวยงาม ทั้งในและนอก อาทิ
1. ห้องพักมีขนาดไม่น้อยกว่า 30 ตารางเมตร
2. ตาแมว
3. โซ่คล้องประตู
4. เตียงขนาด 4 ฟุตขึ้นไป
5. โทรทัศน์ขนาด 20 นิ้วขึ้นไป มีรายการมากกว่า 12 ช่อง
6. ตู้เย็น
7. มินิบาร์
8. กาน้ำร้อนพร้อมขา
9. กาแฟ
10. ชุดขัดรองเท้า
11. ถุงซักผ้า
12. เสื้อคลุมอาบน้ำ
13. รองเท้าแตะ
14. ตู้เสื้อผ้า
15. ไฟหัวเตียง
16. เครื่องเขียน
17. กระจกแต่งหน้า
18. ถังขยะ
19. โต๊ะ
20. เก้าอี้
21. น้ำดื่ม
22. โทรศัพท์ขนาด 14 นิ้วขึ้นไป
23. โทรศัพท์ติดต่อภายใน
24. โทรศัพท์ทางไกล และโทรต่างประเทศได้โดยตรง หรืออุปกรณ์ติดต่อสื่อสารครบครัน
25. ห้องน้ำชักโครก
26. ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำร้อน และน้ำเย็น
27. โฟมอาบน้ำ
28. แชมพู
29. สบู่
30. หมวกอาบน้ำ
31. แก้วน้ำ
32. ผ้าเช็ดหน้า
33. ผ้าเช็ดเท้า
34. ถุงใส่ผ้าอนามัย
35. ผ้าเช็ดตัว
36. กระดาษชำระ
37. ผ้าเช็ดมือ
38. Sewing kit
39. ไดร์เป่าผม
40. ปลั๊กไฟสำหรับโกนหนวด
41. รูมเซอวิส
42. ห้องอาหาร
43. ห้องออกกำลังกายมากกว่า 7 ชนิด และ Fisness Center
44. ห้องชุด เลือกใช้บริการ 3 แบบ
45. ห้องอาหารไทย และสากล
46. ห้องอบไอน้ำ
47. อ่างกุสซี่
48. ห้องนวด
49. สระว่ายน้ำ
50. ห้องประชุมใหญ่ พร้อมอุปกรณ์
51. ห้องประชุมย่อยไม่น้อยกว่า 4 ห้อง
52. ห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์
53. ห้องน้ำสาธารณะ
54. ห้องน้ำคนพิการ

ข้อมูลจากคุณ Pakin บอร์ด hotelier.in.th

โรงแรม 4 ดาว คืออะไร? ต้องมีอะไรบ้าง?

โรงแรมขนาดใหญ่ ตกแต่งดีเป็นพิเศษ มาตราฐานสูงในด้านบริการและความสะดวกสบาย มีห้องอาหารมากกว่า 1 ห้อง

มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ
1. ห้องพักมีขนาดไม่น้อยกว่า 24 ตารางเมตร
2. ตาแมว
3. โซ่คล้องประตู
4. เตียงขนาดไม่ต่ำกว่า 3.5 ฟุต
5. โทรทัศน์ขนาด 20 นิ้วขึ้นไป มีรายการมากกว่า 8 ช่อง
6. ตู้เย็น
7. มินิบาร์
8. กาน้ำร้อนพร้อมขา
9. กาแฟ
10. ชุดขัดรองเท้า
11. ถุงซักผ้า
12. เสื้อคลุมอาบน้ำ
13. รองเท้าแตะ
14. ตู้เสื้อผ้า
15. ไฟหัวเตียง
16. เครื่องเขียน
17. กระจกแต่งหน้า
18. ถังขยะ
19. โต๊ะ
20. เก้าอี้
21. น้ำดื่ม
22. โทรศัพท์ขนาด 14 นิ้วขึ้นไป
23. โทรศัพท์ติดต่อภายใน
24. โทรศัพท์ทางไกล และโทรต่างประเทศได้โดยตรง
25. ห้องน้ำชักโครก
26. ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำร้อน และน้ำเย็น
27. โฟมอาบน้ำ
28. แชมพู
29. สบู่
30. หมวกอาบน้ำ
31. แก้วน้ำ
32. ผ้าเช็ดหน้า
33. ผ้าเช็ดเท้า
34. ถุงใส่ผ้าอนามัย
35. ผ้าเช็ดตัว
36. กระดาษชำระ
37. ผ้าเช็ดมือ
38. Sewing kit
39. ไดร์เป่าผม
40. ปลั๊กไฟสำหรับโกนหนวด
41. รูมเซอวิส
42. ห้องอาหาร
43. ห้องออกกำลังกายมากกว่า 5 ชนิด และ Fisness Center
44. ห้องอบไอน้ำ
45. ห้องนวด
46. สระว่ายน้ำ
47. ห้องประชุมใหญ่ พร้อมอุปกรณ์
48. ห้องประชุมย่อยไม่น้อยกว่า 2 ห้อง
49. ห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์
50. ห้องน้ำสาธารณะ
51. ห้องน้ำคนพิการ

ข้อมูลจากคุณ Pakin บอร์ด hotelier.in.th

โรงแรม 3 ดาว คืออะไร? ต้องมีอะไรบ้าง?

โรงแรมที่ตกแต่งไว้อย่างดี ห้องพักกว้างขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากขึ้น มีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ มีบริการอาหารและเครื่องดื่มครบเครื่องขึ้น แต่อาจไม่เปิดจำหน่ายแก่ บุคคลภายนอกสำหรับมื้อเที่ยง และในวันสุดสัปดาห์

มีสิ่งอำนวยความสะดวกปานกลาง อาทิ
1. ห้องพักมีขนาดไม่น้อยกว่า 18 ตารางเมตร
2. ตาแมว
3. โซ่คล้องประตู
4. เตียงขนาด 3 ฟุต
5. ตู้เสื้อผ้า
6. ไฟหัวเตียง
7. เครื่องเขียน
8. กระจกแต่งหน้า
9. ถังขยะ
10. โต๊ะ
11. เก้าอี้
12. น้ำดื่ม
13. โทรศัพท์ขนาด 14 นิ้วขึ้นไป
14. โทรศัพท์ติดต่อภายใน
15. ห้องน้ำชักโครก
16. ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำร้อน และน้ำเย็น
17. สบู่
18. หมวกอาบน้ำ
19. แก้วน้ำ
20. ผ้าเช็ดหน้า
21. ผ้าเช็ดเท้า
22. ถุงใส่ผ้าอนามัย
23. ผ้าเช็ดตัว
24. กระดาษชำระ
25. บริการเสริมอื่นๆ ตามสมควร เช่น รูมเซอวิส , ห้องอาหาร , ห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์ , ห้องน้ำสาธารณะ ห้องน้ำคนพิการ

ข้อมูลจากคุณ Pakin บอร์ด hotelier.in.th

โรงแรม 2 ดาว คืออะไร? ต้องมีอะไรบ้าง?

โรงแรมที่มีมาตรฐานด้านห้องพักสูงกว่าดาวเดียว ห้องพักกว้างขึ้น มีห้องน้ำในตัว ในห้องพักอาจมีโทรศัพท์และโทรทัศน์ให้ด้วย มีอาหารให้เลือกมากกว่า แต่ก็อาจจะ ไม่บริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับบุคคลภายนอก

มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ
1. ห้องพักมีขนาดไม่น้อยกว่า 14 ตารางเมตร
2. ตาแมว
3. โซ่คล้องประตู
4. เตียงขนาด 3 ฟุต
5. กระจกแต่งหน้า
6. ถังขยะ
7. โต๊ะ
8. เก้าอี้
9. น้ำดื่ม
10. โทรศัพท์ขนาด 14 นิ้วขึ้นไป
11. โทรศัพท์ติดต่อภายใน
12. ห้องน้ำชักโครก
13. ผ้าเช็ดตัว
14. กระดาษชำระ

ข้อมูลจากคุณ Pakin บอร์ด hotelier.in.th

โรงแรม 1 ดาว คืออะไร? ต้องมีอะไรบ้าง?

โรงแรมที่มีขนาดเล็ก สิ่งอำนวยความสะดวกและเฟอร์นิเจอร์แบบง่าย ๆ และ พอใช้ได้ มีห้องน้ำ ห้องส้วมเพียงพอในลักษณะของการใช้ร่วมกัน มีบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้มาพักเท่านั้น บรรยากาศเป็นกันเอง ส่วนมากเจ้าของโรงแรมจะเป็นผู้ดูแลเอง แต่ก็อาจจะไม่บริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับบุคคลภายนอก

ให้บริการอำนวยความสะดวกพื้นฐานทั่วไป อาทิ
1. ห้องพักมีขนาดไม่น้อยกว่า 10 ตารางเมตร
2. เตียงขนาด 3 ฟุต
3. กระจกแต่งหน้า
4. ถังขยะ
5. โต๊ะ
6. เก้าอี้
7. ผ้าเช็ดตัว
8. กระดาษชำระ

ข้อมูลจากคุณ Pakin บอร์ด hotelier.in.th

โรงแรม 1 ดาว 2 ดาว 3 ดาว 4 ดาว 5 ดาว ... ดาวๆๆๆๆ แต่ละดาวมีระดับมาตรฐานโรงแรมต่างกันอย่างไรหนอ? ^ ^

ค่าดาวต่างๆก็คือการวัดระดับมาตรฐานโรงแรมไทยครับ
- แบ่งการวัดระดับมาตรฐานได้ตั้งแต่ ระดับ 1 ดาว ถึง 5 ดาว
- นอกจากเรื่องความสะอาดและปลอดภัยที่โรงแรมทุกระดับให้ความสำคัญแล้วโรงแรมเน้นการมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานทั่วไป

สำหรับการจัดมาตรฐานโรงแรม จะมีตั้งแต่ระดับ 1 - 5 ดาว
1 ดาว = Good, Better than average -->> รายละเอียด
2 ดาว = Very good -->> รายละเอียด
3 ดาว = Excellent -->> รายละเอียด
4 ดาว = Outstanding - worth a special trip -->> รายละเอียด
5 ดาว = One of the best in the country -->> รายละเอียด

ข้อมูลจากคุณ Pakin บอร์ด hotelier.in.th

Kauai Hawaii, USA (Garden Isle) - อ่านว่าอะไรเนี่ย คาอวย คาอัวไอ? -*- ... ที่ ฮาวายครับ ^ ^

Kaua'i or Kauai is the oldest of the main Hawaiian Islands. With an area of 552.3 square miles (1,430.5 km2), it is the fourth largest of the main islands in the Hawaiian archipelago and the 21st largest island in the United States.[3] Known also as the "Garden Isle", Kauai lies 105 miles (170 kilometers) across the Kauai Channel, northwest of Oahu.

The United States Census Bureau defines Kauai as Census Tracts 401 through 409 of Kauai County, Hawaii, which is all of the county except for the islands of Kaula, Lehua, and Niihau. The 2000 census population of Kauai (the island) was 58,303.


ขอแปลคร่าวๆ แบบคนรู้ประกิตงูๆปลาๆ (ใครเก่งอังกฤษอย่ามาอ่านของผมเลย)
Kauai มันเป็นเกาะที่เก่าสุดที่ฮาวายครับ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในหมู่เกาะที่ฮาวาย เรียกอีกชื่อว่า Garden Isle ... ได้แค่นี้ล่ะครับ 555+ (อาจหาญแปลจริงๆ -*-)
ก็ ... เท่าที่ดูคร่าวๆ เป็นเกาะที่นอกจากจะเด่นเรื่องทะเลแล้ว เรื่องวิวป่าๆเขาๆ ก็สวยไม่เบาครับ แถมยังมีวิวทุ่งหญ้าแล้วก็แหล่งพืชผลการเกษตรสวยๆด้วย เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในกลุ่มเกาะที่ฮาวายครับ


อันนี้คลิป Queen's Bath ที่อยู่ที่ Kauai เป็นสระน้ำนี่แหละครับ ... ผมว่าสู้สระมรกตที่ตรังไม่ได้นะ ^ ^
แต่มันเท่ตรงที่เป็นน้ำทะเล ที่ซัดเข้ามาในแอ่งสระน้ำพอดีนี่แหละครับ ^ ^


และอันนี้ก็คลิปของ Kauai รวมๆครับ ... จะเห็นว่ามันสวยมากๆครับ

มาดูกัน ตลาดบ้านใหม่ ตลาดริมน้ำ 100 ปี ที่ฉะเชิงเทรา!! ตลาดน่าเที่ยวของเมืองแปดริ้ว

ตอนนี้สถานที่ท่องเที่ยวแบบตลาดริมน้ำกำลังเป็นที่นิยมและคึกคัก โดยเฉพาะที่อัมพวา
ก็เลยขอนำตลาดริมน้ำที่อื่นๆมาแนะนำบ้างน่ะครับ (เผอิญเห็นในทีวี ^ ^)

ตลาดนี้มีชื่อว่า ตลาดบ้านใหม่ครับ
หรือจะเรียกว่า ตลาดร้อยปีก็ได้
เพราะตลาดนี้มีอายุยืนยาวมาร้อยกว่าปีแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เลยล่ะครับ ^ ^
โดยตลาดนี้เป็นถิ่นฐานของผู้คนเชื้อสายไทย-จีน ที่มาประกอบการค้าที่นี่ ตั้งแต่ช่วงที่ที่นี่เฟื่องฟูน่ะครับ
มีการค้าขาย และแลกเปลี่ยนสินค้ากันมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว
...
และปัจจุบัน ตลาดนี้ก็ยังคงอยู่ โดยมีโครงสร้างเดิมให้เห็นอยู่เยอะด้วยครับ ^ ^
พวกละครที่มาถ่ายกันแบบว่าฉากในตลาดๆ ก็มาถ่ายที่นี่กันหลายเรื่องครับ

ของเด่นก็เป็นพวกของกินของฝากนี่ล่ะครับ ของอร่อยๆมากมายครับ ^ ^


อันนี้เป็น Video พาเที่ยวตลาดบ้านใหม่ จากรายการแม่ช้อยอร่อยเหาะครับ ^ ^

100 Places to Remember Before they Disappear ... 100 สถานที่ที่ควรจดจำ ก่อนที่มันจะหายไป

ช่วงนี้ ใครดูข่าวช่องสามรอบดึก (รอบหลังละครช่วงดึก ประมาณ 5 ทุ่ม)
จะเห็นว่า ทุกๆรอบจะต้องมีการนำเสนอถึง 100 Places ที่กำลังจะหายไปจากภาวะโลกร้อนอยู่ตลอด
จนถึงตอนนี้ ช่องสามก็ยังนำเสนอไม่ครบทั้ง 100 Places เลย (ก็ถ้าจะนำเสนอให้หมด ก็คงมากกว่า 3 เดือนล่ะนะ)
ผมก็เลยนำนั้ง 100 places มาทำลิสท์ไว้ ว่ามีที่ไหนบ้างน่ะครับ
...
จะเห็นว่าลิสท์ที่ 58 ... คือกรุงเทพฯ ... เมืองหลวงของไทยก็โดนด้วย -*-
อย่างที่บอกกันว่าเมืองหลวงเราระดับต่ำกว่าน้ำทะเลซะด้วยสิครับ -*-
...
ก็ จะจริงไม่จริงก็ไม่รู้ มันเรื่องของอนาคตเนอะครับ
อย่างน้อย เค้าก็มีหลักเกณฑ์หลักการณ์ มีการศึกษาความเป็นไปได้กันมาแล้ว ... แม้จะมีบางกลุ่มที่ศึกษาออกมาตรงข้ามก็เถอะ
... ก็รอดูกันต่อไปครับ ^ ^
ขอเพียงอย่าให้เกิดจริงเลย ... ทั้ง 100 สถานที่นี้ เป็นที่สวยๆ ทรงคุณค่าแก่การจดจำทั้งนั้นครับ

1.Kauai Hawaii, USA
2.Mount Kilimanjaro, Tanzania
3.The Okavango Delta, Botswana
4.Rotterdam, The Netherlands
5.Nuwara Eliya District, Sri Lanka
6.The Tundra, Norway
7.Gujarat, India
8.Naukluft Park, Namibia
9.The Nile Delta, Egypt
10.Tokyo, Japan
11.The North Pole, The Arctic Ocean
12.The Mississippi River Delta, USA
13.Masai Mara, Kenya
14.Olympia, Greece
15.Principatp di Lucedio, Upper Po Valley, Italy
16.Tian Shan, Kazakhstan
17.Zackenberg, Greenland
18.Recife, Brazil
19.Zahara de la Sierra, Andalusia, Spain
20.The Battery, New York City, USA
21.North Slope, Alaska, USA
22.Altai Mountains, Russia
23.Kakadu Wetlands, Australia
24.Venice, Italy
25.Franz Josef Glacier, South Island, New Zealand
26.Lake Chad, Chad
27.Siberia, Russia
28.Paris France
29.Tuvalu, The Pacific Ocean
30.Kalahari Desert, Namibia
31.Great Barrier Reef, Australia
32.Mount al-Makmal, Lebanon
33.The Sulu-Sulawei Sea, Malaysia
34.Valdes Peninsula, Argentina
35.Perth, Australia
36.Ontong Java Atoll, Solomon Islands
37.Timbuktu, Mali
38.Monteverde Cloud Forest, Costa rica
39.Mount Chomo Lhari, Bhutan
40.Mergui Archipelago Myanmar
41.Borneo, Indonesia
42.Komodo Island, Indonesia
43.Beijing, People's Republic of china
44.Rio de la Plata, Uruguay
45.Bay of Plenty, New Zealand
46.The Archipelago Sea, Finland
47.Caracas, Venezuela
48.Western Hudson Bay, Canada
49.Mahajamba Bay, Madagascar
50.Yamal Peninsula, Siberia, Russia
51.County Meath, Republic of Ireland
52.The Ganges Delta, Bangladesh
53.Sagarmatha National Park, Himalaya, Nepal
54.Chicago, Illinois, USA
55.Cape Floral Region, Western Cape, South Africa
56.Lilongwe District, Malawi
57.The Maldives, The Indian Ocean
58.Bangkok, Thailand
59.Dalarna, Svealand, Sweden
60.Trinidad, Cuba
61.The Aegean Sea, Greece
62.Pauline Cove, Herschel Island, Canada
63.The Amazon Rainforest, Brazil
64.Honduras
65.The Wadden Sea, Denmark
66.Ross Ice Shelf, Antarctica
67.The Thames, London, Britain
68.The Bering Sea, Russia and the United States
69.Kushiro Marsh, Japan
70.Congo Basin, Democratic Republic of Congo
71.Gondar, Ethiopian Highlands, Ethiopia
72.Nunavut, Canada
73.Bayan Olgii, Mongolia
74.Saint Louis, Senegal
75.Lake Baikal, Siberia, Russia
76.Charlevoix Region, Quebec, Canada
77.Chacaltaya, Bolivia
78.Big Sur, California, USA
79.Great Kordofan Region, Sudan
80.Ilulissat IceFjord, Greenland
81.Vava'u , Tonga
82.The Empty Quarter (Rub' al Khali), Saudi Arabia
83.The Panama Canal, Panama
84.Niger Delta, Nigeria
85.Lake Balaton, Hungary
86.Greater Blue Mountains, New South Wales, Australia
87.Amman, Jordan
88.Cahors, Lot Valley, France
89.Halligen Islands, Germany
90.Quelccaya Ice-Cap, Peru
91.Columbia River, USA
92.The Caribbean Sea
93.Kitzbuhel, The Alps, Austria
94.Indus River< Skardu, Pakistan 95.The Yangtze River, People's Republic of China 96.The Mekong Delta, Vietnam 97.Veracruz, Mexico 98.The Antarctic Peninsula, Antarctica 99.Cherrapunji, India 100.Copenhagen, Denmark ติดตามดูข้อมูลในเวบไซต์หลักของ 100 places ได้ที่นี่ครับ http://www.100places.com
มีหนังสือขายด้วยนะครับ ^ ^"

มาดูกันเร็ว The Bath ที่ชะอำ ... เห็นแล้วนึกถึงสวนผึ้ง ^ ^ ชื่อเต็มๆว่า The Bath medi cottage Cha-am จ๊า~~

ตอนนี้ที่ชะอำมีที่พักเปิดใหม่ครับ (ก็ใหม่มาเป็นเดือนแล้วล่ะ ^ ^")
ก็เลยอยากจะเอามาบอกเล่ากัน เพราะที่พักแห่งนี้ นับว่าสนใจไม่น้อยครับ ^ ^ (เห็นบอกว่า เครือเดียวกับ Pa' - Ka - Ma')
น่าสนใจอย่างไร? ก็ขอบอกแค่ว่า "สไตล์Sceneryที่สวนผึ้ง" ครับ!! เป็นไง น่าสนใจใช่ไหมล่ะ
(จริงๆเค้าเรียกว่า สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ค็อทเทจ ... แต่ถ้าบอกว่าสไตล์สวนผึ้ง คงนึกภาพได้ง่ายกว่า ^ ^)

ข้อมูลก็เข้าไปดูที่ http://www.chaambeach.com/community/forum/view.asp?PostID=ForumID0000397 ได้เลยครับ
เจ้าของรีสอร์ท The Bath เค้าไม่ได้ทำเวบน่ะ ผมเห็นว่าน่าสนใจก็เลยขอ Copy ข้อมูลจากลิงค์ดังกล่าวมาให้ดูรายละเอียดคร่าวๆนะครับ

The baths medi cottage
เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีบ้านพักทั้งหมด 3 หลัง มีดาดฟ้าสำหรับรับประทานอาหารเช้าทุกหลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 200 ตารางวา
ภายในบ้านแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำ
มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เครื่องปรับอากาศ ทีวีแอลซีดี 32 นิ้ว ดีวีดี ตู้เย็น มินิบาร์ เครื่องทำน้ำร้อน
อ่างอาบน้ำขนาด 2*2 เมตรพร้อมเตาจุดน้ำมันหอมเพื่อความผ่อนคลาย และอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน พร้อมเสริฟ์ที่ดาดฟ้าของบ้าน

ขณะนี้เราเปิดให้เข้าพักอย่างไม่เป็นทางการแล้ว และได้จัดโปรโมชั่นแนะนำตัวถึงวันที่ 30 กันยายน 2552

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel . 081 - 017 - 1100 ( เวลา 8:00 - 18:00 น. )


ส่วนรูป ก็ตามนี้ครับ เอามาจาก http://www.chaambeach.com/community/forum/view.asp?PostID=ForumID0000397 นั่นล่ะครับ





เป็นไงครับ ^ ^
เห็นรูปแล้ว น่าสนใจไหมครับ
มีแบบอ่างน้ำใหญ่ๆด้วย ช่องจุดเทียนก็เพียบเลย แถมเตียงยังดูใหญ่น่านอนอีกด้วย ^ ^
เสียดายนิดนึงตรงที่พักไม่ติดทะเลครับ แต่ก็ไม่ไกลนะครับ ถัดจากถนนเลียบชายหาดไปแค่ซอยเดียวเอง ^ ^

รวม ที่ัพัก รีสอร์ท เปิดใหม่ ปี 2009 <<-click

ความรู้เรื่อง กล้องดิจิตอล สำหรับคนไม่รู้เรื่องกล้องเลย ... กล้องมีกี่แบบ? อะไรคือ DSLR?

หลายๆคน ที่ชอบท่องเที่ยว เคยไหม? ที่เห็นใครต่อใครถ่ายรูปเวลาไปเที่ยวได้สวยสดงดงาม แต่เราทำไมถ่ายไม่สวยเลย? -*-
แต่กระนั้นก็ตาม ... จะให้ศึกษาเรื่องกล้องมากมาย ก็ใช่ที่ ... เพราะชอบเที่ยวมากกว่ามัวบรรจงเก็บรูป เก็บภาพ ... เรียกง่ายๆว่าไม่ได้อยากเป็นตากล้องว่างั้นเถอะ ^ ^
...
ความรู้เรื่องกล้องที่จะพิมพ์นี้ เหมาะสำหรับหลายๆคนที่เกริ่นมาข้างต้นนั่นแหละครับ ^ ^
หากอยากจะเซียนด้านกล้อง จงถอยฉากไปให้ไกล เหอๆๆ (แต่ ... ถ้าเซียนแล้ว จะอ่านก็ได้นะ ^ ^)

กล้องมีกี่ประเภท
กล้องดิจิตอลมีมากมายหลายประเภทครับ แต่ถ้ายกเฉพาะที่ใช้กันแพร่หลายก็มีอยู่ 4 ประเภทครับ
1.กล้องคอมแพค (Compact)
2.กล้อง DSLR
3.กล้อง DSLR-Like
4.กล้อง Mirrorless เช่น Micro 4/3

1.กล้องคอมแพค
กล้องประเภทนี้ หมายความรวมๆว่า "พกพาสะดวก" ฉะนั้น กล้องเล็กๆบางๆ หยิบพกสะดวก ก็เรียกว่าเป็นคอมแพคได้ทั้งนั้นล่ะครับ
ส่วนใหญ่ถ่ายภาพออกมาชัดเจนพอจะล้างรูปขนาดจัมโบ้ได้ (4x6 นิ้ว) ... แต่ถ้ามากกว่านั้นความละเอียดก็จะลดลงตามลำดับ
ราคาหลากหลาย มีตั้งแต่ถูกๆ ไม่แพงมาก และแพง ^ ^"

2.กล้อง DSLR (Digital Single Lens Reflex)
ถ้าแปลความหมาย จะแปลว่ากล้องสะท้อนเลนส์เดี่ยวแบบดิจิตอล ... แต่อย่าไปจำดีกว่า
จำง่ายๆว่า "กล้องตัวดำๆใหญ่ๆ เปลี่ยนเลนส์ได้" ก็พอครับ ^ ^ (กล้องที่ไม่ดำ ไม่ใหญ่ เปลี่ยนเลนส์ได้ แต่เป็น DSLR ก็มีนะ ^ ^) ส่วนใหญ่ถ่ายภาพได้คมชัดกว่าคอมแพคและมีลูกเล่น ปรับโน่นปรับนี่ได้เยอะครับ
ส่วนใหญ่พวกมืออาชีพ หรือคนที่ต้องการภาพที่สวยๆ จะใช้กล้องประเภทนี้กันครับ
ราคาเมื่อเทียบกับคอมแพคก็มักจะแพงกว่า ถูกสุดก็ 1.5 หมื่นขึ้นไปครับ

3.กล้อง DSLR-Like
กล้องนี้เป็นกล้อง "เหมือน DSLR" แต่ไม่ใช่ DSLR น่ะครับ
คุณภาพกล้องสูสีกว่าคอมแพค บ้างก็ดีกว่า แต่ยังไม่เท่า DSLR ... เพียงแต่ปรับแต่งได้เยอะใกล้เคียง DSLR แต่ถอดเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้
มีลักษณะดำๆใหญ่ๆเหมือนกับ DSLR
ราคาใกล้เคียงคอมแพครุ่นกลางๆ-รุ่นแพงๆ เหมาะกับคนที่ต้องการภาพที่ดีในระดับโอเคกว่าคอมแพค และไม่ต้องการพกอุปกรณ์เยอะแยะไปกว่ากล้องตัวใหญ่ๆตัวหนึ่ง

4.กล้อง Mirrorless เช่น Micro 4/3 หรือ Sony E-mount
ไม่แน่ใจว่ากล้องประเภทนี้จะก้าวเข้าสู่ตลาดกล้องได้ดีแค่ไหน แต่ ณ ปัจจุบันนี้ก็เปิดตัวได้แรงพอดู
เป็นกล้องแบบเดียวกับ DSLR ต่างกันตรงไม่มีเลนส์สะท้อนเท่านั้นเอง ทำให้มีขนาดที่เล็กกว่า DSLR มาก ได้เปรียบเรื่องการพกพาที่ใกล้เคียงคอมแพค
คุณภาพไฟล์รูปเท่าๆกับ DSLR (DSLR รุ่นล่างๆ-รุ่นกลางๆ) ... แต่ส่วนใหญ่จะบ่นๆกันเรื่องที่มันจับถือและปรับแต่งไม่ถนัดแบบ DSLR
ดังนั้น คนที่เคยใช้คอมแพคมาก่อน ก็อาจจะบ่นๆว่าใหญ่ไป แต่จับถือดีขึ้น
ส่วนคนใช้ DSLR มาก่อน ก็อาจจะบ่นว่าเ็ล็กไป จับไม่สะดวกเลย
สุดท้ายแล้ว เรื่องการจับถือ ผมว่าขึ้นกับความเคยชินว่าเคยใช้กล้องอะไรมาก่อน

นอกจากกล้อง 4 ชนิดนี้แล้ว ก็ยังมีอีกครับ
เช่น Modular Camera เอย ... Range Finder เอย ... Medium Format เอย (แต่เหล่านี้คือกล้องแพงขนานแท้ครับ แพงกว่า DSLR ตัวท๊อปๆอีก อย่าไปพูดถึงมันเลย แต่ถ้าใครอยากพูดถึง ก็ลองเสาะๆหาข้อมูลดูได้ครับ)

............

คร่าวๆก็เท่านี้ครับ ^ ^
เห็นลักษณะกล้องคร่าวๆแล้ว คงพอจะตอบตัวเองได้นะครับ ว่าตนเองเหมาะกับกล้องแบบไหน ^ ^
ถ้าไปเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ การจะแบกกล้องตัวใหญ่ๆก็สมเหตุสมผลอยู่ เพราะคุณจะไม่ได้ทำอะไร นอกจากแบกกล้องและชมวิว
แต่ถ้าคิดจะไปสวนสนุก ก็ต้องคิดหนักหน่อยว่าจะเอากล้องแบบไหนไปดี ^ ^

รีวิว ข่าวสาร อื่นๆนอกเรื่อง ^ ^

หน้านี้ รวมรีิวิวและ่ข่าวสารอื่นๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและนอกเหนือจากการท่องเที่ยวครับ
- ในหลวงของปวงชนชาวไทย

ท่องเที่ยว
- วิธีการจองโรงแรมให้ได้ราคาถูกสุดๆ
- แนะนำที่ฮันนีมูน ปราณบุรี
- แนะนำที่ฮันนีมูน พัทยา
- แนะนำที่ฮันนีมูน หัวหิน
- สายการบินเปิดใหม่ Happy Air
- โรงแรมอวกาศ Galactic Suite 01
- โรงแรมอวกาศ Galactic Suite 02
- โรงแรมอวกาศ Galactic Suite 03
- ลิสท์รายชื่อ โรงแรมผี
- วิธีป้องกันผีหลอกในโรงแรม ภาค 1
- วิธีป้องกันผีหลอกในโรงแรม ภาค 2
- โรงแรม 1 ดาว คือ?
- โรงแรม 2 ดาว คือ?
- โรงแรม 3 ดาว คือ?
- โรงแรม 4 ดาว คือ?
- โรงแรม 5 ดาว คือ?
- TOP 3 โรงแรมที่สูงสุดในประเทศไทย
- ไม่มีบัตรเครดิต จองโรงแรมทางเนทยังไง?
- พาชมเกาะ Bora Bora ภาค 1
- พาชมเกาะ Bora Bora ภาค 2
- พาชมเกาะ Bora Bora ภาค 3
- ไปแต่ตัว ทัวร์ยกแก๊ง กับโออิชิ ภาค 3
- สงกรานต์ เ่ล่นน้ำประหยัดหน่อยก็ดีนะ ^ ^
- พาชม Capsule Hotel ของญี่ปุ่นครับ
- ประเทศที่ไม่ต้องทำวีซ่า
- Anantara Resort เพื่อคนไทย!!
- พระนารายณ์ราชนิเวศน์ กับการบูรณใหม่
- ระวังถูกแอบดู จากการเข้าพักในรีสอร์ทต่างๆ
- ลิงกับสระว่ายน้ำ ^ ^
- สายการบินใหม่ Thai Tiger Airways
- สายการบินใหม่ Solar Air
- ปีใหม่ Count down ที่ไหนดี
- วิดีอบนชิงช้าสวรรค์
- ชิงช้าสวรรค์
- เที่ยวงานวัด
- ฮันนีมูน ที่ไหนดี
- การเดินทางไปเกาะเต่า นางยวน พงัน และเกาะสมุย
- EZ-Link
- ฮันนีมูนต่างประเทศ โซนทะเล ที่ไหนดี? (โหวต)
- 10 อันดับ โรงแรมใหญ่ที่สุดในโลก (ช่วงเวลาปลายปี 2010)
- งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ
- ทัวร์ญี่ปุ่น เลือกบริษัทไหนดี?
- อย่ากร่างกับพนักงานโรงแรมนะ
- โปร AirAsia GO
- ไทยเที่ยวไทย 2554
- ตั๋วไปมัลดีฟส์ถูกมากๆ
- อันดามัน VS อ่าวไทย
- เกาะล้าน VS เกาะเสม็ด
- สายการบินไปญี่ปุ่น ราคาถูกๆ
- ตามรอย The Hangover Part II เที่ยวไหนบ้างในไทย
- สายการบินไปญี่ปุ่นที่ถูกที่สุดตอนนี้
- วิธีการเลือกทัวร์
- ทัวร์ต่างประเทศ ไปเอง หรือซื้อทัวร์ดี?
- ชะโงกทัวร์ คืออะไร
- เที่ยวทะเลไทย ที่ไหนดีที่สุด
- Girls' Generation เข้าพักที่ Indigo Pearl Resort Phuket
- การเดินทาง "ทางเครื่องบิน" ไปยังเกาะเต่า นางยวน พงัน
- หนองมน เลือกซื้อของร้านไหนดีหนอ

รถยนต์
- Toyota Prius
- TATA Nano
- Eco car list
- Nissan March 2010
- Toyota Aygo
- Chery QQ
- Chery Tiggo
- Chery Eastar Cross
- รถอีโค่คาร์ ขับไกลได้หรือไม่?
- Ford Fiesta ภาค 1
- Ford Fiesta ภาค 2 (คลิป)
- Ford Fiesta ภาค 3 (ทำท่าจะมาแรง?)
- Ford Fiesta ภาค 4 (รางวัลต่างๆที่ได้)
- Suzuki Swift 2009
- Toyota Etios - New Eco Car?
- Honda - New Eco Car?
- ราคา ออกแล้ว สำหรับ Nissan March 2010
- Nissan Juke
- Mazda CX-9
- การเลือกซื้อรถยนต์ แบบตามใจ จขบ.
- Toyota Prius - ระบบจอดรถออโต้
- Toyota Prius - รวมรีวิว
- Ford Fiesta รีวิวภายใน
- Ford Fiesta รีวิวภายนอก
- Honda CR-Z
- Chevrolet Cruze
- Honda Brio
- สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด
- เพิ่งรถคว่ำ กับคติเตือนใจ
- โปรตอน ซาก้า - Proton Saga
- ฮุนได ทูซอน - Hyundai Tuscan
- ฮุนได โซนาต้า - Hyundai Sonata

ดนตรี - Music Video
- Lady Gaga - Bad Romance
- โฮโลแกรม คอนเสิร์ต
- Martha Argerich
- Lang Lang
- Garbage
- อุปทานหมู่ หรือหูเราไม่ถึง
- Lady Gaga - Bloody Mary
- David Gilmour กลับมาร่วมงานกับ Roger Waters
- เพลงประกอบหนัง Transformers 3
- Chopin Grande Polonaise Briliante ที่ดีที่สุด

อื่นๆ สัพเพเหระ
- กินปูอลาสก้า ภาค 1
- กินปูอลาสก้า ภาค 2
- แผ่นดินไหว จากลมสุริยะ!?
- เ้บื่อเครียดจากการเมือง ทำอย่างไรดี
- มหกรรม Wedding Fair
- วิธีการตั้งชื่อให้ลูก แบบสมัยใหม่!! ให้ทันสมัย ไม่ซ้ำใคร
- หัวล้านเกิดจากอะไร
- หัวล้านรักษาและแก้ไขอย่างไร
- UFO ลึกลับบนน่านฟ้าสนามบิน Xiaoshan Airport
- Mr.Bean - Naked in Hotel
- IKEA Furniture
- Ragnarok เซิร์ฟเถื่อน
- วิธีโหลดไฟล์จากยูทูป
- Tamara Beraia นักเปียโนทักษะสูง ทำไมจึงโนเนม
- นีซึมะ เอย์จิ ได้ vote อันดับ 1 ใน Bakuman
- เกมออนไลน์ เซิร์ฟเถื่อนที่มีอยู่มากมาย
- Google TV
- ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์มงคล 2554
- วิธีบิด Ebay ให้ได้ราคาถูก
- โฆษณา Sony Handycam
- Growth Hormone เคล็ดลับหน้าตึง
- เม่า มะเม่า หมากเม่า
- ลูกกินยากทำอย่างไรดี
- ความสุดยอดของ Google Translate
- เกย์ติดเอดส์ พุ่งกระฉูด
- ธัญญ่า แถลงข่าว ฟ้องหย่าเป๊ก/พิงกี้
- คนไทยกินหนูนาย่าง ต่างชาติสยอง
- 21 พ.ค. 2554 โลกแตก
- 21 ต.ค. 2554 โลกแตก
- ลัดดาแลนด์ vs ชัตเตอร์
- คลิปแมว กอดลูกแมว น่ารักมากๆ
- คลิปผีเฮี้ยนสุดๆ เปิดปิดตู้เองได้
- ผีอำ เป็นอย่างไร แก้อย่างไร
- สามีมีเมียน้อย ทำไงดี?
- PutDejUdom
- แฟนใหม่อั้ม หลังเลิกโน้ต เป็นใคร?
- Charlie bit my finger
- Girls' Generation (SNSD) บุกไทย เที่ยวภูเก็ต!!
- Girls' Generation (SNSD) ทำอะไรที่ภูเก็ต!!
- คำถามและคำตอบ เวบ istockphoto
- รถไฟเหาะ ในสวนหลังบ้าน ทำเองกับมือ!!
- รวมคลิป Win Compilation
- เพลงใหม่ของ Noel Gallagher
- คลิปเด็กมารยามากๆ
- คลิปวิธีการหลบตดของตัวเอง

วิธีกิน วิธีแกะ ปูอลาสก้า (ทาราบะ , King Crab) แกะเปลือกยังไง? กินยากไหม?

มาต่อด้วยวิธีกินปูอลาสก้ากันครับ (วิธีนึ่ง ดูโพสต์เก่าได้ที่นี่ครับ -->> มากินปูอลาสก้า กันเถอะ)
วิธีกิน ก็เริ่มด้วยขามันครับ

หักขามันออกเป็นท่อนๆตามรอยต่อ

ในทีวีนั้น จะตัดออกเป็นท่อนๆ แล้วเอาอะไรมาดันๆจากปลายข้างหนึ่ง เนื้อมันก็หลุดมาทั้งยวงแล้วครับ
แต่ผมทำไม่เป็น -*- ... คือถ้าจะทำแบบในทีวี ต้องตัดพอดีข้อ แล้วก็ไม่มีเอ็นติดจริงๆครับ (ผมทำได้แบบในทีวีเป็นบางข้อ บางข้อก็ทำไม่ได้ ออกมาเละไปหมด)
วิธีที่ผมใช้ก็คือ "กรรไกร" ครับ ^ ^ กรรไกรตัดกระดาษนี่แหละครับ
ตัดตรงส่วนที่ไม่มีหนามเลยครับ ตัดง่ายครับ เพราะมันจะอ่อนๆไม่แข็ง

ตัดเสร็จก็ได้เนื้อปูก้อนใหญ่ๆ หลุดออกมาแบบนี้เลย
(ในภาพน่ะ ผมแกะออกมา แล้วเอาไปใส่ไว้ในขามันใหม่ เพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะเลย เหอๆๆๆ)

มาดูเนื้อปูกันชัดๆครับ ใหญ่สะใจ เต็มๆคำ!! ... เอาไปจิ้มกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทยๆได้เลยครับ ^ ^

...

สำหรับเนื้อปูอลาสก้านี้ มีคนบอกว่า เหมือนปูอัด ไม่อร่อย สู้ปูม้าไม่ได้
แต่ถ้าถามผม ผมว่าไม่เหมือนปูอัดครับ
เพียงแต่บอกได้ว่า "ปูอัดทำเลียนแบบปูอลาสก้า" นี่แหละครับ
เพียงแต่ว่า ของแท้ มันจะหนึบกว่า เป็นเนื้อๆมากกว่าไม่เหมือนแป้ง มีกลิ่นหอมของปูมากกว่า และมีรสหวานๆด้วยครับ
เรียกได้ว่า เกือบจะเหมือนปูอัด แต่ก็อร่อยกว่าครับ
...
แต่ถ้าไปกินตามร้านอาหาร ได้มาแค่ขา 2-3 ข้าง แต่ราคาหลายร้อย ก็ไม่คุ้มแน่ๆ กินปูอัดประทังความอยากดีกว่าครับ ^ ^
แต่ถ้าปูทั้งตัว หนักโลกว่าๆ ราคา 217 บาท อย่างที่ผมซื้อมากินนี้ คุ้มแน่ๆ!! ^ ^ (ลองไปหาดูแถวแมคโครนะ ไม่แน่ใจว่าที่อื่นๆจะมีขายด้วยไหม)
แม้จะไม่สดใหม่ เป็นแค่ปูแช่แข็ง แต่มันก็หวานมันอร่อยอยู่นะครับ
ถ้าให้เทียบกับปูทะเลบ้านเรา ปูทะเลบ้านเรารสชาติเข้มข้นกว่า อร่อยกว่า ...
แต่เทียบกับเนื้อที่เป็นชิ้นๆคำๆของปูอลาสก้าแล้ว ... มันกินสะใจกว่าครับ เนื้อปูเต็มๆปากเลย กระจายได้ทั่วต่อมรับรสที่ลิ้นดีครับ (บรรยายเว่อร์ไปป่าวเนี่ย ^ ^)

และนี่คือ เนื้อปูที่ได้จากขาของมันครับ ^ ^ (ถ่ายออกมาเบลอไปหน่อย ลืมเช็ค ... มาเจอตอนนี้ก็ลงท้องหมดแล้ว ^ ^)


...
และที่ขาดไม่ได้
สำหรับการซื้อปูมาทั้งตัว และนึ่งทานเองนั้นก็คือ
"ตัวปู" ครับ
เนื้อที่ตัวมันจะหอมหวานกว่าที่ขา ... ไม่เหมือนที่ปูอัดทำเลียนแบบครับ เนื้อตรงส่วนนี้
รสชาติปูเน้นๆครับ เนื้อนุ่มฟู อร่อยไม่แพ้ปูทะเลบ้านเราเลยครับ แต่เนื้อก้อนใหญ่และเยอะกว่าครับ ^ ^
และที่สำคัญ ไปร้านอาหาร มักไม่ค่อยมีเนื้อตรงนี้มาให้กินซะด้วยสิ มีแต่ขา ^ ^"
ก็ตามภาพเลยครับ เนื้อที่ตัวมันครับ


...
...
แล้วก็ ปิดท้ายด้วยขาปูที่เหลือแต่เปลือก กินเนื้อหมดแล้ว ^ ^


...
ก็ แนะนำครับ อร่อยดี ... หลายๆคนบอกว่าอร่อยสู้ปูทะเลบ้านเราไม่ได้
แต่ผมว่ามันก็อร่อยอีกแบบนึงครับ อย่างที่บอกว่าเนื้อเต็มๆคำ
ก่อนเชื่อไม่เชื่อ อร่อยจริงไม่อร่อยจริง
ก็ลองไปหามากินดูก่อนได้ครับ ... เพราะจริงๆมันไม่แพงอย่างที่คิดครับ
โลละ 159 บาทเอง ลองไว้ไม่เสียหายครับ ^ ^ คุณอาจจะชอบมันก็ได้ ^ ^

-------------------------------

ตอบ Facebook นะครับ มีคนงงว่าราคาโลละ 159 เนี่ยนะ!! ... ก็ไม่แปลกที่จะงง ผมก็งง ... เพราะปูทะเลไทยธรรมดา ไปสั่งร้านอาหารดูสิ โลนึงหลายร้อยอยู่นะ
...
แต่ก็ต้องขอบอกว่าซื้อมาโลละ 159 จริงๆครับ -*- ... ที่แมคโครนครสวรรค์ ช่วงปลายปี 2009
ดูรูปได้ที่นี่ มากินปูอลาสก้า กันเถอะ ครับ อันนี้เป็นตอนก่อนกิน เห็นทั้งตัว ... King Crab แท้ๆ (ป้ายมันก็บอกว่า King Crab อ่ะครับ)
...
ตอนแรกเดินไปเห็นก็ตกใจเหมือนกัน ว่าแมคโครต่างจังหวัด มีปู King Crab ขายด้วยหรือ!!?? งงมาก
แต่ตอนแรกก็นึกในใจนะ ว่าคงแพงมาก แต่พอดูราคา ... โลละ 159 บาท ... ซื้อทันที!! -*- (ไม่ใช่ปูอัดยัดกระดองปูด้วยนะครับ ปูจริงๆเลย)
... เดี๋ยวถ้ามีโอกาสแวะไปแมคโครแถวนั้นจะลองไปดูใหม่อีกรอบ
ส่วนตัวก็คิดหลายตลบเหมือนกัน ว่าทำไมมันถูก -*- (หมดอายุ? ปูโคลนนิ่ง? มีสารกัมมันตรังสี? ฯลฯ ... ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็กินไปแล้ว -*-)

มากิน ปูอลาสก้า , ปูทาราบะ หรือ King Crab กันเถอะ!! ... ทำเองง่ายๆ อร่อยกว่าร้านครับ ^ ^

รอบนี้ขอรีวิวนอกเรื่องหน่อย (ไปๆมาๆ มันจะกลายเป็นบล็อคที่อยากเอาอะไรมาใส่ก็ใส่ ยำกันมั่วซั่วหรือเปล่านะ บล็อคเรา -*-)
...
รอบนี้มารีวิวเรื่องการกิน "ปูอลาสก้า" สไตล์ไทยๆครับ ^ ^
พูดถึงปูอลาสก้า เราจะคุ้นเคยกันในชื่ออลาสก้านี้ ... แต่จริงๆ มันมีชื่อของมันครับ มันคือปูที่ชื่อว่า King Crab (ปูราชา!!)
บางคนสับสนว่าปูอลาสก้า กับ King Crab เป็นคนละปูกัน แต่จริงๆมันเป็นปูชนิดเดียวกัน
โดยปูอลาสก้า ก็คือ King Crab ที่จับมาจากอลาสก้านั่นเอง ^ ^"
ในประเทศญี่ปุ่น จะเรียกปู King Crab ว่า "ปูทาราบะ" ครับ ^ ^
ฉะนั้น ใครบอกว่าปูทาราบะ อร่อยกว่าปูอลาสก้า ... ก็พินิจพิจารณานิดนึง ^ ^" ... แต่ก็ไม่แน่ครับ เพราะถึงจะเป็นปูพันธุ์เดียวกัน แต่เนื่องด้วยถิ่นที่อยู่อาศัยที่ต่างกัน อาจจะทำให้รสชาติแตกต่างกันได้
...

และที่มาของการได้ปูอลาสก้ามากินในครั้งนี้นั้น (ขอเรียกว่าปูอลาสก้าแล้วกัน)
ก็สืบเนื่องมาจากไปเดินซื้อของกินของใช้ที่แมคโคร (Makro) มาครับ
กำลังเดินดูอาหารแช่แข็ง พวกกุ้งอะไรเงี๊ยะครับ
แล้วก็เหลือบไปเห็นปูอลาสก้าด้วย แช่แข็งอยู่เป็นตัวๆเลย (เห็นเหลืออยู่ 6-7 ตัวเอง มีน้อยหรือคนซื้อไปกันเยอะก็ไม่รู้)
พอมองดูราคา ... อุแม่เจ้า!!! โลละ 159 บาท!! ถูกสุดๆ!! (ไปกินตามร้านอาหาร มันแพงกว่านี้อ่ะ แค่ขาสองสามข้าง ก็ราคาขูดเลือดกันซิบๆแล้ว)
... ที่มันถูก อาจจะเป็นเพราะมันโดนแช่แข็งก็ได้มั้ง ประมาณว่าไม่สด ... แต่คิดไปคิดมา ปูตามร้านอาหาร มันก็แช่แข็งก่อนปรุงเหมือนกันละนะ -*-
สรุปก็เลยซื้อมากินครับ
เป้าหมายก็คือ เอามานึ่ง แล้วก็กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสไตล์ไทยๆ ^ ^ (ไม่จุ่มหรอก เนยน่ะ ไม่แซ่บ!! ... แต่ฝรั่งคงบอกว่าแซ่บไป รสแท้ๆของปู หายไปหมด -*-)


และนี่คือโฉมหน้าของปูที่ซื้อมาครับ ตัวนึงก็ โลกว่าๆ รวมเบ็ดเสร็จ เจ้าตัวนี้ราคา 217 บาท ครับ ^ ^ (ปลาช่อนเผาแถวบ้านก็ตัวละ 180 บาทแล้ว นี่ก็ขูดเลือดกันซิบๆ -*-)


จับเจ้าปูออกจากถุง นอนหงายน่ากลัวเชียว ... ไม่ว่าใครเห็นก็พาลพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า "จะกินไงเนี่ย" -*-
ประมาณว่าเห็นรูปร่างมันแล้ว ต้องกินยากแน่ๆ


ถ่ายรูปคู่กับคุณพี่สาวซะหน่อย ก่อนเอาไปนึ่งน่ะครับ ^ ^


นึ่ง ... ก็นึ่งในซึ้งง่ายๆ แบบไทยๆครับ ^ ^ เทน้ำใส่กระทะ เอาซึ้งวางลงไป ปิดฝา ... รอ 30 นาที (ถ้าน้ำเดือดอยู่แล้ว แค่ 15-20 นาที ก็โอเคแล้วครับ)


...
พอสุกก็นำมากินได้เลยครับ
ซึ่งวิธีการกินนั้น บอกตรงๆว่า "ง่ายกว่าปูม้า" บ้านเราอีกครับ ^ ^ พูดจริง ไม่ได้พูดเล่นครับ
เพราะปูอลาสก้านี้ พอเรานึ่งแล้ว เปลือกมันจะอ่อนครับ ประมาณพลาสติกแข็งที่ยืดหยุนได้ ไม่แข็งแบบปูม้าบ้านเรา ฉะนั้น ไม่ต้องทุบปูก่อนเอาไปนึ่งแต่อย่างใดครับ เอาไปนึ่งได้เลย

ตามไปดูวิธีกินต่อ ก็ คลิกที่นี่เลยครับ -->> วิธีกินปูอลาสก้า

รีวิวและบทความเกี่ยวกับกล้อง DSLR , Mirrorless, Compact และสารพัดการถ่ายรูป

เ้รื่องเที่ยวๆเนี่ย หลายๆคนอาจจะลืมนึกไป ว่าถ้าจะทำเวบเกี่ยวกับการเที่ยวทั้งทีเนี่ย
เรื่อง "กล้อง" ก็สำคัญไม่แพ้กัน ... เพราะกล้องเป็นอุปกรณ์เก็บภาพที่เราได้ท่องเที่ยวมาไว้เป็นความทรงจำ
ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็พกกล้องไปเที่ยวกันทั้งนั้น ^ ^

ผมเองก็เป็นคนชอบถ่ายรูปเหมือนกัน แม้จะไม่ใช่เซียนกล้อง หรือนักถ่ายภาพ แต่ก็พอจะมีความรู้เรื่องกล้องอยู่บ้าง
ยังไงๆก็อยากเอามาแชร์กันครับ ^ ^

รีวิวกล้อง
- รีวิว Nikon D5000
- รีวิว Olympus E-420
- Sample Gallery Olympus E-420 + Zuiko 40-150 mm. 4.0-5.6
- ชมไฟล์วิดีโอจาก Nikon D3100 กันครับ
- Tamron 75-300
- รีวิว Olympus E-P1
- รีวิว เลนส์ Nikon 50mm f1.8 D

ความรู้เกี่ยวกับกล้อง
- กล้องมีกี่ชนิด อะไรบ้าง?
- เลนส์มือหมุนคืออะไร?
- ซื้อกล้องถ่ายรูปที่ไหน ร้านไหนดีนะ?
- กล้อง Modular Camera System
- กล้อง Modular Camera System เป็นยังไง
- การถ่ายรูปให้ดูแอ๊บแบ๊ว (ฮา)
- Mirrorless คืออะไร?
- การถ่ายภาพให้ไฟเป็นแฉก

กล้อง Micro 4/3 / EVIL
- Olympus E-P2 ภาค 1
- Olympus E-P2 ภาค 2 (ไฟล์วิดีโอ)
- Olympus E-P2 ภาค 3 (เลนส์ที่จะออกใหม่)
- Olympus E-PL1
- Sony NEX-5 NEX-3
- Sony NEX-7
- Panasonic GF2
- Olympus E-PL2
- เลนส์ 25mm 1.4
- Panasonic GF1 GF2 เลือกเลนส์คิทอะไรดี?
- Panasonic GF3
- Olympus E-P3
- Olympus 12mm f2.0
- Pentax Q
- Olympus M.Zuiko 45mm f/1.8
- Olympus E-PL3
- Olympus E-PM1
- Leica 25mm 1.4
- ชมระบบ AF ที่เร็วที่สุดใน E-P3, E-PL3, E-PM1
- Panasonic GF7

กล้องคอมแพค
- Sony TX1, WX1 คอมแพคถ่ายกลางคืนแจ๋ว!!
- Casio EX-G1 บางแต่ทน!!
- Panasonic LX5
- Olympus XZ-1
- Olympus XZ-1 รีวิว
- Fuji X10, X50

กล้องและอุปกรณ์อื่นๆที่น่าสนใจ
- ซื้อกล้องมือสองที่ไหน อย่างไรดี
- แนะนำ Ricoh GXR
- แนะนำ Samsung NX10
- ภาพตัวอย่าง Ricoh GXR
- Hasselblad H4D 40
- Waterproof Housing กันน้ำ
- Nikon D3S VS Canon 1D Mark IV
- Sigma 8-16mm f/4.5-5.6 DC
- กล้องดิจิตอล Sony DSC HX1 ซูมได้เยอะ 20 เท่า
- The First DSLR in the world - Fuji S1 Pro
- Canon VS Nikon อะไรดีกว่ากัน
- Sony NEX VG10
- Nikon D3100
- Nikon D95
- Samyang 8mm f3.5 fisheye
- Canon 60D มาแล้ววว~~
- โพลารอยด์มาใหม่ Fuji Instax mini 50S
- Sony SE S006
- Fuji X100 กล้องใหม่แต่ดีไซน์รีโทร
- Fuji X100 สเปค
- Fuji X100 กล้องใหม่แต่ดีไซน์รีโทร 2
- Samsung EX1
- Nikon D7000
- Canon G12
- Sony SLT A55 กับ A33
- เปรียบเทียบ Panasonic LX5, Canon S95, Nikon P7000
- Nex VG10E ใช้ Alpha Lens ได้เต็มระบบ
- เปรียบเทียบ 60D D7000 K-5
- Panasonic 12.5mm f12
- Mirrorless VS DSLR
- Mirrorless ของ Nikon เปลี่ยนเซนเซอร์ได้
- Pentax K-5 เจ๋งกว่า D7000 กับ 60D
- Nikon D5500 (ข่าว)
- Canon 600D (ข่าว)
- Canon 1100D
- Sony A700
- Fuji HS20 EXR
- Samsung NX20, NX200
- ถ่าน AA สำหรับกล้องดิจิตอล
- กล้องดิจิตอล ที่ดารานักร้องอย่าง Girls' Generation ใช้
- Art Filter ในกล้อง Olympus
- Olympus E-50
- การถ่ายรูปง่ายๆที่คนพลาดกันเยอะ

Palio เขาใหญ่ ... จงใจทำมาให้เหมือนอะไร?

Palio เขาใหญ่ ... จงใจทำมาให้เหมือนอะไร?
... อย่าตอบว่า "เหมือน Primo Posto" ล่ะครับ ^ ^" (มันก็เหมือนจริงๆล่ะ ก็ทำร่วมกับ Primo Posto นี่น้า~~~)
...
เอาเป็นว่า ... Primo Posto ไม่เปิดกลางคืน แต่ที่ Palio เปิด!! ครับ ^ ^
แหล่งเดินเที่ยว ถนนคนเดินเลยนะ ต้องเปิดกลางคืนสิ ^ ^
แล้วเราก็จะได้เห็นวิวที่ไม่ได้เห็นที่ Primo Posto แต่ได้มาเห็นที่ Palio นี่แหละครับ ^ ^

Palio จงใจทำออกมาให้ออกแนวๆ Italy ประหนึ่งว่าเป็น Little Italy เลยครับ ^ ^
ลองตามเข้าไปดูในเวบ http://www.palio-khaoyai.com สิครับ
ในส่วนของหัวข้อ About Us -->> Mood & Tone
จะมีภาพร้านขายของ อาคาร บ้านช่อง แบบอิตาลีๆ มาให้ชมกันด้วย
ซึ่งถือว่าสวยงามมากมาย ... ซึ่ง Palio จะลอกกลิ่นอายออกมาได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องรอดูตอนเสร็จแล้วน่ะนะครับ ^ ^

และนี่คือตัวอย่างภาพบางส่วน ที่นำมาจากเวบhttp://www.palio-khaoyai.com น่ะครับ